ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ตัวปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธที่ 28 ก.ค.นี้ตามเวลาสหรัฐฯ
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,467.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด หรือ +0.0003%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,911.93 จุด เพิ่มขึ้น 78.64 จุด หรือ +0.28% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,011.51 จุด ลดลง 180.81 จุด หรือ -0.69%
นักวิเคราะห์จากบริษัทอินเวอร์เนส คอนเซล ในรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ และแอปเปิลจะออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มวัฏจักรหรือกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อดูว่าบริษัทกลุ่มนี้จะฟื้นตัวมากน้อยเพียงใด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการแถลงผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันพุธที่ 28 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ค.ตามเวลาไทย และจากนั้นจะเป็นการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาหุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกง หลังมีรายงานว่าหุ้นการศึกษาจีนร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลถึงผลกระทบจากนโยบายใหม่ของรัฐบาลจีน หลังจากที่มีรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จีนอยู่ในระหว่างพิจารณาที่จะให้สถาบันกวดวิชาเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อลดภาระทางการเงินให้ผู้ปกครอง นอกจากนี้ ยังสั่งจำกัดการลงทุนจากต่างประเทศในภาคธุรกิจดังกล่าว ทั้งในรูปแบบการควบรวมกิจการ การซื้อกิจการ หรือการซื้อแฟรนไชส์