สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านปรับแผนการจัดงาน งานรับสร้างบ้าน Online 2021 หวังเพิ่มช่องทางการตลาดให้สมาชิกสมาคมฯ หลังได้เลื่อนการจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021” จากเดิมจะจัดในเดือนสิงหาคมไปเป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี “วรวุฒิ กาญจนกูล” เผยผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภค 400 ราย พบ 72% โควิด-19 กระทบต่อการตัดสินใจสร้างบ้าน และกว่า 60% ใช้เวลามากกว่า 6 เดือนขึ้นไปในการคิดและตัดสินใจจะปลูกสร้างบ้านพร้อมเข้าอยู่
นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยว่า สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้ตัดสินใจเลื่อนการจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021” จากเดิมจะจัดในเดือนสิงหาคม ไปเป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 แต่เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิกสมาคมฯ จึงได้จัดงานรับสร้างบ้าน Online 2021 ในรูปแบบ Virtual Online Exhibition เน้นสร้าง Data Base ผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านกลุ่มใหม่ๆ ได้มากขึ้น โดยจะกำหนดการจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม-6 กันยายน 2564 นี้ขึ้นมาก่อน ซึ่งคาดหวังว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นนี้จะกระตุ้นการตลาดและการขายก่อนการจัดงานในช่วงปลายปี ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวกต่อการเข้าชม ป้องกันการระบาดของโรคระบาด โดยเฉพาะโควิด-19 อีกทั้งยังสร้างมิติใหม่ช่วยให้ภาพลักษณ์ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านมีความทันสมัยมากขึ้น รวมถึงกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านต่างจังหวัดจะมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาคมฯ ได้มากขึ้นเช่นกัน
การแทรกช่องว่างด้วยการจัดกิจกรรมผ่านงานรับสร้างบ้าน Online 2021 ก่อนการจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021” นั้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสำรวจและทำแบบสอบถามไปยังกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคจำนวนกว่า 400 ราย พบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้านมากถึง 72% ส่วนที่เหลือ 28% ไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้าน ข้อมูลดังกล่าวคาดว่าเป็นกลุ่มบ้านราคาแพงซึ่งตลาดยังพอไปได้ ต่างจากบ้านขนาดเล็กหรือตลาดทั่วไป (Mass) ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านมาก ด้วยเหตุนี้อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านที่เดิมเน้นตลาดทั่วไป (Mass) ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ได้ขยับมาจับตลาดบ้านราคาแพงตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
เมื่อถามว่า ต้องการจะปลูกสร้างบ้านพร้อมเข้าอยู่ใช้เวลาในการปลูกสร้างกี่ปีนั้น พบว่าพร้อมปลูกสร้างไม่เกิน 6 เดือน คิดเป็นสัดส่วน 24% และใช้เวลามากกว่า 6 เดือนถึง 2 ปี คิดเป็นสัดส่วน 65% และใช้เวลา 2-3 ปี คิดเป็นสัดส่วน 11% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ต้องการสร้างบ้านส่วนใหญ่จะไปสร้างบ้านในปี 2565-2566 ซึ่งเป็นช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 น่าจะคลายตัวลงแล้ว
ส่วนทำเลที่เลือกปลูกสร้างบ้านนั้น 3 ทำเลที่ต้องการปลูกสร้างมากสุดคือ อันดับ 1 ยังเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑล คิดเป็นสัดส่วน 37% อันดับ 2 และอันดับ 3 คือ ภาคกลาง และภาคใต้ คิดเป็นสัดส่วน 18% จากสัดส่วนนี้แสดงให้เห็นว่าความต้องการของลูกค้ากลุ่มรับสร้างบ้านกว่า 55% ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภาคกลาง
พร้อมกันนี้ นายวรวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า จากแบบสอบถามที่ได้จากกลุ่มผู้บริโภคที่ยังตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้านกับบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ถึง 84.2% นั้นสะท้อนภาพได้ว่าผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่น ดังนั้น สมาคมฯ จึงปรับปรุงช่องทางการเข้าถึงระหว่างสมาชิกกับผู้บริโภคผ่านทางเว็บไซต์ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน คือ www.hba-th.org เพื่อให้เว็บไซต์ของสมาคมฯ เป็นศูนย์กลางให้ผู้ที่สนใจจะสร้างบ้านได้เข้ามาหาข้อมูลและเข้าถึงแบบบ้านต่างๆ พร้อมโปรโมชันของสมาชิกของสมาคมได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น อีกทั้งมีการโปรโมตเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกและผู้บริโภค
“ปี 2564 เป็นอีกปีที่ภาคธุรกิจรับสร้างบ้านต้องเผชิญกับปัจจัยลบรอบด้าน ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องปรับตัวกัน แต่หากคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่อยู่ ภาคธุรกิจคงเหนื่อยอีกยาว ส่วนผู้บริโภคที่เดิมคิดจะปลูกสร้างบ้านก็ต้องชะลอออกไป” นายวรวุฒิ กล่าวให้ความเห็นในตอนท้ายว่า ในเดือนกรกฎาคม 2564 ที่กำลังจะผ่านไปนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่ดีขึ้น มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 หมื่นคนต่อวัน ทางสมาคมฯ คงต้องดูสถานการณ์การระบาด พร้อมกับมาตรการของรัฐบาลที่จะมีการประกาศออกมาแบบวันต่อวัน เพื่อนนำมาประเมินสถานการณ์ในการทำกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมต่อไป