ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เผยสถานการณ์ธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก (Micro SME) ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยืดเยื้อและทวีความรุนแรงขึ้น ธนาคารพร้อมให้ความช่วยเหลือทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ ผ่านมาตรการความช่วยเหลือตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยสินเชื่อ SME กล้าให้ โดยครึ่งปีแรกของปี 2564 ธนาคารอนุมัติสินเชื่อให้แก่ธุรกิจ Micro SME ไปแล้วรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นายนาธัส กฤตวรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริหารธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงจนนำไปสู่การล็อกดาวน์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างหนัก โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก หรือ Micro SME ซึ่งส่วนใหญ่มีเงินทุนหมุนเวียนค่อนข้างจำกัด ธนาคารในฐานะสถาบันการเงินที่เน้นการดูแลและให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ Micro SME พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่ผู้ประกอบการทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ ผ่านมาตรการความช่วยเหลือตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่าง “สินเชื่อฟื้นฟู” และ “สินเชื่อ SME กล้าให้” ของธนาคารเอง โดยครึ่งปีแรกของปี 2564 ธนาคารอนุมัติสินเชื่อไปแล้วรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจ Micro SME จำนวนกว่า 2,500 ราย
นอกจากนี้ ธนาคารยังออกมาตรการพิเศษพักชำระหนี้ 2 เดือน ช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการควบคุมโรคติดต่อของทางการ ตามมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยลูกค้าสามารถติดต่อขอรับมาตรการดังกล่าวผ่าน Call Center โทร.0-2697-5454 ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย ทุกสาขา และเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ (RM) ที่ดูแลลูกค้าในปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม 2564
“ธนาคารขอยืนยันว่าจะยังคงมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือเคียงข้างผู้ประกอบการต่อไป ทั้งการปล่อยสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ และการออกมาตรการต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจ Micro SME สามารถข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ด้วยความเชื่อมั่นในปรัชญา EVERYONE MATTERS ใครไม่เห็น เราเห็น”