ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT) แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2564 จำนวน 613 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (yoy) ที่มีกำไรสุทธิ 306 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิครึ่งแรกของปีมีจำนวน 954.8 ล้านบาท ลดลง 31.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 954.8 ล้านบาท ลดลง จำนวน 431.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.1 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกัน สาเหตุหลักเกิดจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 เป็นผลจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและโอกาสที่คุณภาพสินเชื่อของลูกค้าที่จะแย่ลงจากผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 7,284.1 ล้านบาท ลดลง 644.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.1 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2563 สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 11.7% และรายได้อื่น 2.3% ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 61.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.9% ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการเป็นนายหน้าขายประกันและค่าธรรมเนียมจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้ และอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin - NIM) สำหรับงวด 6 เดือนปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 3.2 ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 เป็นผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้อ
ด้านเงินให้สินเชื่อของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 217.8 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 10.6 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ 4.8% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 4.6% สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของยอดสินเชื่อโดยรวม ในขณะที่ยอดสินเชื่อด้อยคุณภาพเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังมีมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลลูกหนี้และการติดตามหนี้
และอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 อยู่ที่ 101.4% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 93.3% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 9.9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย จำนวน 1.8 พันล้านบาท เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 มิถุนายน 2564 มีจำนวน 53.4 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 20.6% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ 15.0%