"โกลบอล คอนซูเมอร์" ไตรมาส 2 รับอานิสงส์ WFH หนุนยอดขายอาหารพร้อมทานพุ่ง กางแผนครึ่งปีหลังเดินเกมรุกธุรกิจอาหาร ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ Frozen-Chilled-Plant Based บุกตลาดทั้งใน และต่างประเทศ ส่งแบรนด์ Kitchen Plus ลุยอาหารพร้อมทานโปรตีนจากพืช อัปมาร์จิ้น เตรียมนำร่อง 6 เมนูอาหารไทยยอดนิยม เจาะยุโรป-อเมริกาสิงหาคมนี้ รับเทรนด์รักสุขภาพ พร้อมเพิ่มไลน์อาหารแช่เย็นขยายฐานในประเทศ ขณะปีนี้รายได้รวมทะลุ 2,100 ล้านบาท
นายนพพร ภัทรรุจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ประเมินภาพรวมผลงานไตรมาส 2/2564 ว่า เห็นสัญญาณพลิกกลับมาเป็นบวกตามยอดขายที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหาร หมวดอาหารแปรรูปแช่แข็ง และอาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน (Ready To Eat) ที่ได้รับอานิสงส์ Work Form Home จากกระแสการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ Delivery และรถฟู้ดทรักในส่วนของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น ขณะที่แนวโน้มการส่งออกผลไม้อบแห้งขยายตัวได้ดี จากยอดคำสั่งซื้อของประเทศคู่ค้าหลักๆ เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
สำหรับแนวโน้มช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เดินเกมรุกธุรกิจอาหาร ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน ทั้งแบบอาหารแช่แข็ง (Frozen Food) อาหารแช่เย็น (Chilled Food) และผลิตภัณฑ์อาหารจากโปรตีนพืช (Plant Based) ภายใต้แบรนด์ “Kitchen Plus” (แบรนด์ตัวเอง) เพื่อผลักดันอัตราการทำกำไรให้เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว โดยได้เตรียมส่ง Plant Based อาหารไทยรายแรกของโลก ชูจุดเด่นรสชาติจัดจ้านสารอาหารครบ ประเดิม 6 เมนูยอดนิยม เช่น กะเพรา บะหมี่หมูสับ เปาะเปี๊ยะทอด และลาบทอด เป็นต้น ลุยตลาดประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ภายในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากได้ทดลองวางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดในประเทศแล้ว ตั้งเป้าเฟสถัดไปเดินหน้าขยายตลาดไปยังประเทศเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และประเทศอื่นๆ ทั่วยุโรปและอเมริกา รองรับกระแสรักสุขภาพบูม ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลและมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด
ขณะที่แผนการทำตลาดในประเทศนั้น ล่าสุดบริษัทฯ ได้ขยายไลน์ผลิตอาหารพร้อมทานแช่เย็น (Chilled Food) ในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM) ภายใต้แบรนด์ EZY GO วางจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-11 (พันธมิตรหลัก) ทั่วประเทศ พร้อมเตรียมแผนรุกตลาดผลิตภัณฑ์อาหารผสมกัญชงเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไฟเขียวหมวดอาหาร เบื้องต้น คาดจะมีการพิจารณาอนุมัติใบอนุญาตประกอบการภายในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งหลังจากนั้นบริษัทฯ จะเริ่มออกผลิตภัณฑ์เพื่อวางตลาดได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป
ล่าสุด บริษัทฯ อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องสกัดน้ำมันกัญชง (Hemp Seed Oil) และพัฒนาสูตรอาหารหลากหลายเมนูในรูปแบบ Ready To Eat และผลิตภัณฑ์โปรตีนผง ทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งจากแผนงานที่วางไว้ข้างต้น มั่นใจผลักดันผลงานช่วงครึ่งปีหลังสดใส หนุนภาพรวมทั้งปี 2564 เติบโตตามเป้าหมาย รายได้ทะลุ 2,100 ล้านบาท เติบโตกว่า 30% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ขีดความสามารถการทำกำไรปรับดีขึ้นจากปีก่อน สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) ไว้ได้ที่ระดับ 25-30%