บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA หุ้นน้องใหม่ตัวล่าสุด และเข้ามาซื้อขายในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวน แม้ราคาหุ้นจะพุ่งขึ้นสูงกว่าจองกว่า 100% แต่กลับสร้างความย่อยยับให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเพียงวันที่ 2 ของการเข้าจดทะเบียนเท่านั้น
MENA นำหุ้นจำนวน 175 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคาหุ้นละ 1.20 บาท จากราคาพาร์ 50 สตางค์ โดยมีค่าพี/อี เรโช 20.69 เท่า และมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน
หุ้นประเดิมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเปิดซื้อขายที่ราคา 1.60 บาท ถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 2.82 บาท และต่ำสุดที่ 1.59 บาท ก่อนจะปิดที่ 2.48 บาท/หุ้น สูงกว่าจอง 1.28 บาท หรือสูงกว่าจอง 106.67%
ปมที่น่าสนใจในการซื้อขายหุ้น MENA คือ มูลค่าการซื้อขายซึ่งมีจำนวน 7,434.57 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณหุ้น 3,278.34 ล้านหุ้น ราคาซื้อขายเฉลี่ยหุ้นละ 2.27 บาท
MENA มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 734 ล้านหุ้น การซื้อขายวันแรกมีจำนวน 3,278.34 ล้านหุ้น หรือประมาณ 5 เท่าของทุนจดทะเบียน
คำถามคือ ทำไมการซื้อขายจึงร้อนแรงขนาดนี้ หุ้นที่หมุนเวียนซื้อขายมาจากไหน และเป็นไปได้หรือที่นักลงทุนรายย่อยจะซื้อขายเก็งกำไรกันนับสิบรอบ โดยคำนวณจากปริมาณหุ้นหมุนเวียน และตัดหุ้นที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต้องเข้าไซเรนท์พีเรียด หรือช่วงเวลาห้ามขายหุ้น จึงมีหุ้นหมุนเวียนในตลาดเพียง 300 ล้านหุ้นเศษเท่านั้น
มีนักลงทุนขาใหญ่ หรือมีเจ้ามือเข้าไปจุุดพลุไล่ราคา หรือโยนหุ้นเพื่อปั่นราคา กระตุ้นแมลงเม่าให้แห่เข้าไปเก็งกำไรหรือไม่
เพราะการซื้อขายวันที่ 2 หุ้น MENA ก็ออกลายความอำมหิต ราคาหุ้นถูกทุบขายจนเกือบติดดิน จากราคาสูงสุดในวันแรกที่ 2.82 บาท และปิดที่ 2.48 บาท การซื้อขายวันที่ 2 ราคาเปิดที่ 2.30 บาท ก่อนจะถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 2.54 บาท หลังจากนั้นถูกถล่มขายจนลงมาปิดในราคาต่ำสุดของวันที่ 1.81 บาท ลดลง 67 สตางค์ หรือลดลง 27.02% มูลค่าซื้อขาย 1,406.90 ล้านบาท
MENA ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถลากจูง หรือรถเทรลเลอร์ ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือมิกเซอร์ และการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง มีกลุ่มขจรวุฒิเดช ถือหุ้นใหญ่รวมกันเกินกว่า 60% ของทุนจดทะเบียน
ผลประกอบการปี 2563 มีกำไรสุทธิ 34.80 ล้านบาท ส่วนไตรมาสแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 10.13 ล้านบาท โดยมีค่าพี/อี เรโช ณ สิ้นวันที่ 8 กรกฎาคมที่ 41 เท่า
การซื้อขายหุ้น MENA ในวันที่ 3 ราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวอย่างหวือหวา มีการลากราคาขยับขึ้นมาใหม่ แต่ยังห่างไกลจากจุดสูงสุดเดิมในวันแรกที่ 2.82 บาท ดังนั้น จึงมีนักลงทุนที่แห่เข้าไปเก็งกำไรหุ้น MENA ในวันแรกจำนวนมากติดหุ้นต้นทุนสูงอยู่
ตลาดหลักทรัพย์ควรจะประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น MENA ตั้งแต่การซื้อขายในภาคบ่ายวันแรก เพราะราคาหุ้นและปริมาณการซื้อขายไม่น่าจะเป็นไปตามปกติ
แต่ตลาดหลักทรัพย์อาจให้อภิสิทธิ์กับหุ้นน้องใหม่ โดยไม่ได้ใช้มาตรการกำกับการซื้อขายอย่างเท่าเทียม แม้การซื้อขายจะเข้าข่ายผิดปกติก็ตาม
ตลาดหลักทรัพย์อาจภาคภูมิใจกับนโยบายการรับหุ้นใหม่เชิงปริมาณ อาจยินดีที่เห็นหุ้นใหม่ราคาหุ้นทะยานเหนือกว่าจองเป็น 100% แต่ไม่คำนึงถึงนักลงทุนที่ตกเป็นเหยื่อหุ้นใหม่
ไม่ตระหนักถึงนักลงทุนที่เจ็บหนักจากการลงทุนในหุ้นใหม่ที่ตลาดหลักทรัพย์รับเข้ามา และอาจแกล้งหลับตาข้างหนึ่ง ปล่อยให้ขาใหญ่หรือเจ้ามือเข้ามาลากราคาหุ้นอย่างเสรี
การซื้อขายหุ้น MENA วันแรกซึ่งน่าจะไม่เป็นปกติ ตลาดหลักทรัพย์ควรตรวจสอบ เพื่อดูว่า มีขาใหญ่หรือเจ้ามือโยนหุ้นกันหรือไม่
และมีใครลากนักลงทุนไปเชือดอย่างอำมหิตในหุ้น MENA ทำให้รายย่อยบาดเจ็บกันระนาวหรือไม่