xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์กรุงเทพอัปเกรดโมบายแบงกิ้ง ครอบคลุมทั้งกลุ่มลงทุน-ธุรกรรม-ไลฟ์สไตล์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารกรุงเทพ เดินหน้าอัปเดตฟีเจอร์ใหม่โมบายแบงกิ้งต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ทั้งการลงทุน การทำธุรกรรมทางการเงิน พร้อมรองรับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้ใช้บริการทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา ชูไฮไลต์เด่น เช่น การเปิดบัญชีกองทุนรวม การโอนเงินไปต่างประเทศ และการทำธุรกรรมจากบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) รวมถึงการเปิดใช้งานอีกครั้ง (Re-activate) ด้วยเลขที่บัญชีและใบหน้า รับเทรนด์ธุรกรรมผ่าน Mobile Banking เติบโต

นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) 
เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันมีความต้องการจัดการธุรกรรมต่างๆ ด้วยตนเองผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องไปสาขามากขึ้น ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า ในไตรมาสแรกของปี 2564 คนไทยทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงกิ้งมากกว่า 3,200 ล้านรายการ หรือเพิ่มขึ้นราว 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นถึง 88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าการทำธุรกรรมรวมกันกว่า 11 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การเติบโตของโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ มียอดผู้สมัครใช้งาน ณ สิ้นปี 2563 เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 17% และมียอดการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มเติบโตขึ้น 60% โดยคาดว่าจำนวนผู้ใช้งานในสิ้นปี 2564 นี้ จะเติบโตได้ 30% หรือมีจำนวนผู้ใช้งานรวมกว่า 13 ล้านราย ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้

ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว ล่าสุด โมบายแบงกิ้งจากธนาคารกรุงเทพ ทำการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่เพื่อเติมเต็มประสบการณ์และตอบโจทย์การใช้งานด้านต่างๆ ได้ดีและครอบคลุมยิ่งขึ้น ดังนี้

บริการเปิดบัญชีกองทุนรวมผ่านโมบายแบงกิ้ง ช่วยให้สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้อย่างรวดเร็ว ทั้งกองทุนเปิดทั่วไปและกองทุนลดหย่อนภาษี ของ บลจ.บัวหลวง และ บลจ.บางกอกแคปปิตอล รวมถึงซื้อกองทุนครั้งแรก (1st Time Buy) และกองทุนที่เสนอขายในช่วง IPO ได้ด้วย รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ ‘แสดงรายละเอียดการลงทุนบัญชีพันธบัตร’ ให้ลูกค้าเรียกดูข้อมูลพันธบัตรรุ่นที่ถือครอง และประวัติการทำรายการได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปปรับสมุดพันธบัตรที่สาขา

ด้านธุรกรรมระหว่างประเทศเปิด ‘บริการโอนเงินต่างประเทศ’ ทั้งการโอนผ่านระบบ SWIFT ที่เลือกโอนได้มากถึง 17 สกุลเงิน ครอบคลุม 124 ประเทศทั่วโลก วงเงินสูงสุดถึงวันละ 1.5 ล้านบาท ในอัตราค่าธรรมเนียมถูกกว่าการใช้บริการที่สาขา ทั้งยังทำรายการได้ทันทีโดยไม่ต้องสมัครบริการหรือยื่นเอกสารประกอบ รวมถึงขยายบริการเพิ่มเติมให้สามารถโอนเงินระหว่างบัญชีสกุลเงินบาทและบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) ของตนเองได้มากถึง 14 สกุลเงิน สูงสุดถึง 3 ล้านบาท/รายการ โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อวัน ช่วยให้ลูกค้าบริหารกระแสเงินสดและความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนได้ดียิ่งขึ้น

และมอบประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ราบรื่น ไม่มีสะดุด แม้จะเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและเปิดใช้งานอีกครั้ง (Re-activate) ได้อย่างปลอดภัย เพียงใช้เลขบัญชีหรือหมายเลขบัตรเดบิต พร้อมยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าผ่านแอปได้ทันที พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั้งบริการเตือนเพื่อจ่ายบิล (Bill Alert) การปรับปรุงบันทึกช่วยจำ ให้สามารถแยกหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ พร้อมใส่สติกเกอร์ อีโมจิและอักขระพิเศษได้ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เพื่อต้อนรับการเปิดประเทศด้วยบริการ ซื้อประกันภัยการเดินทาง (Travel Insurance) ผ่านโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ พร้อมรับเอกสารกรมธรรม์ผ่านทางอีเมลได้หลังจากทำรายการเสร็จเรียบร้อย

และสำหรับลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงเทพมาก่อนสามารถดาวน์โหลดโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และเปิดบัญชีออนไลน์ “บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ e-Savings” โดยไม่มีกำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำ และบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ทได้เลย โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีสำหรับปีแรก (ตั้งแต่ 11 ม.ค.64-31 ธ.ค.64) และสามารถยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนที่จุดบริการ Be My ID ของธนาคารทุกสาขาหรือ ร้าน Kerry Express ทั่วประเทศ

“เราให้ความสำคัญและรับฟังเสียงจากลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ผู้ใช้งาน สะท้อนความตั้งใจที่ต้องการเป็น “เพื่อนคู่คิด” สำหรับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดความยุ่งยากหรือซับซ้อน ทำให้ใช้งานไม่สะดวก เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม”


กำลังโหลดความคิดเห็น