xs
xsm
sm
md
lg

GL แจงปมหุ้นกู้-เงินโอนกัมพูชา ยันพร้อมให้ข้อมูล KPMG เต็มที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรุ๊ปลีสแจงประเด็นข้อสังเกตผู้สอบบัญชี ระบุกรณีหุ้นกู้ 150 ล้านเหรียญดอลล์นั้น JTA ได้เปลี่ยนสิทธิการรับชำระคืนหุ้นกู้เป็นสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจึงไม่มีภาระการชำระคืนรอคดีสิ้นสุด ส่วนกรณีกัมพูชาได้รับเงินคืนแล้ว พร้อมทำงานร่วม KPMG ใกล้ชิดเพื่อให้เกิดความโปร่งใสอย่างเต็มที่

นายทัตซึนะ โคโนชิตะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (GL) 
กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจสอบบัญชีโดยบริษัทเคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด (KPMG)ได้ตั้งข้อสังเกตในรายงานการตรวจสอบไตรมาส 3 ปี 2563 ว่า บริษัทขอชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นข้อสังเกตดังกล่าวดังนี้ กรณีความไม่แน่นอนคดีการกล่าวโทษจากกรมสืบสวนคดีพิเศษ (DSI) นั้น เป็นการกล่าวโทษอดีตผู้บริหารของบริษัทเมื่อ 3 ปี หลังจากนั้นผู้บริหารปัจจุบันไม่เคยได้รับการร้องเรียนอีก และได้พยายามให้ข้อมูลอย่างเต็มที่กับทาง DSI ให้มากที่สุดมาโดยตลอด ส่วนกรณีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับคดีความกับบริษัท J Trust Asia Pte.Ltd (JTA) กับ Group Lease Holdings Pte.Ltd (GLH) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ GL นั้น ได้สิ้นสุดแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2563 โดยตัดสินให้ GLH ได้ชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้บันทึกข้อมูลครบถ้วนถึงความเสียหายแล้วในงบการเงินปี 2563 ขณะที่คดีอื่นๆ ที่มีการฟ้องร้องทั้งในและต่างประเทศนั้น ในส่วนของคดีความในประเทศไทยเนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19 จึงยังไม่มีความคืบหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารพยายามที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอย่างเต็มที่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น

สำหรับประเด็นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทจำนวน 130 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 นั้น ในการดำเนินการฟ้องร้องทาง JTA ได้เปลี่ยนสิทธิการรับชำระคืนหุ้นกู้เป็นสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแทน ดังนั้น ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ บริษัทจึงไม่มีภาระการชำระเงินค่าหุ้นกู้ดังกล่าว ส่วนค่าเสียหายที่ยังฟ้องร้องอยู่นั้นยังไม่สิ้นสุดจนกว่าจะมีคำตัดสินของศาลซึ่งคาดว่าจะไม่เกิดขึ้นภายใน 1 ปีนี้

ส่วนข้อสังเกตกรณีการถูกจำกัดขอบเขตผู้บริหาร ในรายการที่เกี่ยวข้องกับบริษัท APF Trading (APFT)ในกัมพูชาอันเกิดจากบริษัทย่อยของ GL นั้น

โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 มีหนี้ค้างชำระ 12 ล้านเหรียญสหรัฐ และบันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าในกรณีดังกล่าวแล้วเต็มจำนวน และได้ยุติการทำธุรกิจกับ APFT แล้วตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือในการให้ข้อมูลต่างๆ และกรณีบริษัทย่อยของ GL ได้มีการโอนเงินให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเป็นข้อผิดพลาดนั้น ได้รับเงินแล้วโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องจะชำระคืน 150,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน ดังนั้น นับว่าปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว รวมถึงประเด็นรายการบัญชีเงินฝากประจำในประเทศที่มีภาระค้ำประกันซึ่งเป็นหลักทรัพย์ที่ GLH นำไปค้ำประกันตั้งแต่ปี 2560 นั้น บริษัทได้หาข้อมูลเท่าที่ให้กับ KPMG แล้ว และพร้อมทั้งอนุมัติให้ KPMG ติดต่อกับธนาคารผู้รับฝากโดยตรงในการขอจ้อมูลต่างๆ แต่จากสถานการณ์โควิด-19 คงมีความล่าช้าอยู่ คาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้หรือต้นปีหน้าจะมีความชัดเจนขึ้น

"จากข้อสรุปที่เราชี้แจงไปแล้ว จึงทำให้ข้อสังเกตของ KPMG ในประเด็นความน่าเชื่อถือของผู้บริหารอันเกิดจากประเด็นต่างๆ ก่อนหน้านี้หมดไปด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทจะทำงานร่วมกับ KPMG อย่างใกล้ชิด รวมถึงการให้ข้อมูลต่างๆ ในรายการที่มีความเกี่ยวโยงกันอย่างเต็มที่ตามที่ KPMG ต้องการ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและความโปร่งใสอย่างเร็วที่สุด และบริษัทต้องขอโทษต่อนักลงทุนเป็นอย่างมากในความล่าช้าที่เกิดขึ้น"

ด้านนายริกิ อิชิกามิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GL กล่าวว่า ความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยนั้น โดยภาพรวมแล้วการปล่อยสินเชื่อใหม่ลดลงตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยในสภาวการณ์เช่นนี้เราจะให้ความสนใจในคุณภาพและการชำระคืนหนี้มากกว่า ซึ่งที่ผ่านมา ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และบริษัทจะยังติดตามปริมาณการฉีดวัคซีนภายในประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับมาดำเนินได้ตามปกติต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น