กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เตรียมขยายธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัล ชูกลยุทธ์สร้างระบบนิเวศดิจิทัล พร้อมเตรียมเปิดตัวช่องทางดิจิทัลใหม่ เช่น กรุงศรี คอนซูมเมอร์ Line OA, Website, Facebook และ Youtube ในไตรมาส 3 เป็นต้นไป เตรียมสร้าง Krungsri Consumer Data Platform เชื่อมโยงข้อมูลทุกช่องทาง ยกระดับการให้บริการลูกค้าแบบไร้รอยต่อ ตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้บริการช่องทางดิจิทัลเป็น 10 ล้านคน (หรือเติบโต 15%) ในปี 2564
นายอธิป ศิลป์พจีการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ในฐานะผู้รับผิดชอบการพัฒนาธุรกิจใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยถึงกลยุทธ์การขยายธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัลของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ว่า “การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป โดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดียและบริการออนไลน์ โดยข้อมูลจาก We Are Social ณ เดือนมกราคม 2564 ชี้ให้เห็นว่า คนไทยอายุ 16-64 ปีใช้อินเทอร์เน็ตสูงถึง 8 ชั่วโมง 44 นาทีต่อวัน ธุรกิจจึงจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้าถึงลูกค้าที่ใช้บริการออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในปีที่ผ่านมา มียอดการใช้ข้อมูลผ่านบัตร รวมถึงการใช้บริการช่องทางดิจิทัลในเครือกรุงศรีคอนซูมเมอร์กว่า 250 ล้านรายการ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่จะต้องเร่งทำการตลาดโดยใช้ข้อมูล (Data-Driven Marketing) อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนั้น กรุงศรี คอนซูมเมอร์ได้เตรียมขยายธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ และสร้างโมเดลธุรกิจที่ตอบสนองโลกออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าที่จะสร้างระบบนิเวศเชิงข้อมูล (Data Ecosystem) ที่ดีซึ่งรวบรวมข้อมูลจากทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ไว้ในที่เดียวแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจ เหมาะสมกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลกับกรุงศรี คอนซูมเมอร์ อย่างต่อเนื่อง
โดยระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะเกิดขึ้นได้ต้องประกอบด้วย 3 มิติสำคัญ ได้แก่ การขยายแพลตฟอร์มข้อมูล ผลิตภัณฑ์ บริการผ่านช่องทางดิจิทัล (Platform) โดยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาให้บริการลูกค้า เช่น บริการ ‘ยืนยันตัวตนด้วยเสียง’ บริการตรวจสอบข้อมูลบัญชีบัตรเครดิตด้วยตนเอง ผ่านระบบแชตบอทบน Facebook Messenger มีแผนเพิ่มช่องทางการสื่อสารทางดิจิทัลใหม่ๆ เช่น กรุงศรี คอนซูมเมอร์ Line OA, Website, Facebook, Youtube ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เป็นต้นไป รวมถึงมีการเปิดให้บริการดิจิทัลใหม่ๆ เช่น บริการ ‘ยูแคช’ (U Cash) โอนวงเงินบัตรเข้าบัญชีธนาคารเพื่อใช้เป็นเงินสด บริการ U Card สมัครบัตรใหม่ผ่านแอป UChoose พร้อมขยายจุดรับบริการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (E-KYC) ผ่านจุดยืนยันตัวตนกว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564
การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) เพื่อจะตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า ผ่านการทำโปรโมชันและดีลพิเศษที่ทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าจากการใช้ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อส่วนบุคคลในเครือ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ได้แก่ ส่วนลดในการซื้อสินค้า การใช้คะแนนแลกเครดิตเงินคืน รับ E-Coupon หรือสิทธิประโยชน์ หรือดีลพิเศษในฟีเจอร์ U Mall ในแอป UChoose เป็นต้น
และการสื่อสารและทำการตลาดเฉพาะบุคคลแบบ Personalized โดยใช้ข้อมูล (Personalization) เพื่อให้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือโปรโมชันที่แตกต่างกันสำหรับลูกค้าแต่ละรายแบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางที่ลูกค้าสนใจตามพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและตอบสนองความต้องการให้ลูกค้าได้อย่างทันที ถูกที่ ถูกเวลา ด้วยเครื่องมือทางการตลาดและการสื่อสารที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทยังเตรียมสร้าง Krungsri Consumer Data Platform ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มที่จะเชื่อมต่อและระบุตัวตนของลูกค้าจากข้อมูลทั้งออนไลน์ และออฟไลน์จากทุก Touch Point ของลูกค้าตลอด Customer Journey เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้ให้บริษัทสามารถให้บริการลูกค้าแบบไร้รอยต่อ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า โดยภายในปี 2564 นี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้บริการทางดิจิทัลในทุกช่องทางเป็น 10 ล้านคน (หรือเติบโต 15%) จากปัจจุบันที่ 8.7 ล้านคน
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2563 ผู้ลงทะเบียนใช้แอปพลิเคชัน UChoose 5.8 ล้านราย คาดการณ์สิ้นปีนี้มีผู้ลงทะเบียน 6.5 ล้านราย คิดเป็นประมาณ 70% จากฐานลูกค้ารวมที่ 9 ล้านราย ขณะที่ผู้ใช้บริการ U Cash มีจำนวนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยนับแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา มียอดเบิกสินเชื่อ 1.24 พันล้านบาท ยอดการทำรายการ 135,000 รายการ และมียอด 16,000 บาทต่อราย โดยตั้งเป้าหมายยอดใช้ UCash เพิ่มขึ้นในสิ้นปีนี้เป็น 10,000 ล้านบาท
"พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เร่งเข้ามา อย่างยอด QR Payment ที่เพิ่มขึ้นมากจากปีก่อนที่มี 87,000 รายการ มา 5 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 100,000 รายการ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะโตขึ้นอีก 3 เท่า หรือ 300,000 รายการ จากข้อมูลเหล่านี้ ทำให้เราต้องเร่งพัฒนาช่องทางดิจิทัล ซึ่งจากจำนวนลูกค้าถึง 9 ล้านรายมีจำนวนพันธมิตรทางธุรกิจถึง 25,000 ราย สามารถเป็นแพลตฟอร์มที่มีสเกลใช้ได้ โดยผลิตภัณฑ์หลักๆ ที่จะเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มจะมี 4 ผลิตภัณฑ์ได้แก่ บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อผ่อนชำระ และประกัน ซึ่งจะใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาทต่อเนื่องในปีนี้และปีหน้า"
สำหรับภาพรวมของธุรกิจใน 5 เดือนแรกของปีนั้น ในส่วนของบัตรเครดิตมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตสอดคล้องกับตลาด ขณะที่สินเชื่อบุคคลปรับตัวลดลงตามสภาพของอุตสาหกรรมรวมที่หดตัวประมาณ 5% เนื่องจากเป็นกลุ่มสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและเป็นกลุ่มเปราะบาง แต่จากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐมี่เข้ามา ทำให้ยอดลดลงไม่มากนัก ด้านสินเชื่อผ่อนชำระค่อนข้างทรงตัว เพราะมีกลุ่มที่เพิ่มขึ้นจากสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการ Work from home เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แต่กลุ่มที่ลดลงเป็นสินค้าที่ต้องใช้หน้าร้านเป็นหลัก เช่น ผ่อนทองคำ หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างไป และกลุ่มประกันมีการขยายตัวดีในกลุ่มประกันสุขภาพโดยเฉพาะประกันโควิด-19