ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี รวมถึงดัชนี S&P 500 ที่ปิดร่วงลง
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,568.58 จุด เพิ่มขึ้น 2.36 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,811.82 จุด ลดลง 63.07 จุด หรือ -0.22% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,865.46 จุด เพิ่มขึ้น 48.39 จุด หรือ +0.17%
ตลาดบางส่วนในภูมิภาคปรับตัวตามดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 5.9% สู่ระดับ 769,000 ยูนิตในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 870,000 ยูนิต โดยยอดขายบ้านใหม่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง และราคาบ้านที่สูงขึ้น
ส่วนสต๊อกบ้านใหม่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 330,000 ยูนิตในเดือน พ.ค. โดยเมื่อพิจารณาจากยอดขายบ้านและสต๊อกบ้านในตลาดพบว่า ผู้ขายบ้านต้องใช้เวลา 5.1 เดือนในการขายบ้านจนหมดสต๊อกในตลาด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 4.6 เดือนในเดือน เม.ย.
ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 63.9 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 68.7 ในเดือน พ.ค.
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน พ.ค. ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2564 รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือน พ.ค. ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน