ตลาดหุ้นเอเชียผันผวน นักลงทุนวิตกเงินเฟ้อ-จับตาประชุมเฟด

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อยังสร้างความวิตกกังวลให้แก่นักลงทุนที่กำลังรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้ ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้เช่นกัน

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,556.71 จุด เพิ่มขึ้น 0.15 จุด หรือ +0.004%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,306.14 จุด ลดลง 135.16 จุด หรือ -0.46% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,609.37 จุด ลดลง 29.16 จุด หรือ -0.10%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกร่วงลง 1.3% ในเดือน พ.ค. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.8% โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนผิดหวังและวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อยังสร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6% และหากเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI เดือน พ.ค.พุ่งขึ้น 6.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.3%

การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อทำให้นักลงทุนวิตกกังวลก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มอภิปรายเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการ QE ในการประชุมครั้งนี้ แต่คาดว่าเฟดจะยังไม่เปิดเผยแผนการดังกล่าวต่อสาธารณชนจนกว่าจะถึงเดือน ส.ค.หรือ ก.ย.ปีนี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานในเช้าวันนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือน พ.ค.ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 49.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 38% ในเดือน เม.ย. โดยยอดส่งออกเดือน พ.ค.ขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 41 ปี อย่างไรก็ดี ยอดส่งออกเดือน พ.ค.ขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะปรับตัวขึ้น 51.3%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการรายงานยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค.ของจีนในวันนี้