บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS เพิ่งรายงานการแปลงสภาพครั้งสุดท้าย ใบสำคัญแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ (วอแรนต์) รุ่นที่ 6 หรือ NEWS-W6 ปรากฏว่ามีผู้ใช้สิทธิแปลงสภาพเพียง 7%ของจำนวนวอแรนต์ ทั้งหมด
NEWS-W6 ออกมาจำนวนทั้งสิ้น 14,570.70 ล้านหน่วย แจกฟรีให้ผู้ถือหุ้นเดิม กำหนดสัดส่วนการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ 1 วอแรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ ราคาแปลงสภาพ 0.016 สตางค์ โดยแปลงสภาพครั้งสุดท้ายระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคมถึง 12 มิถุนายน 2564 ก่อนจะหมดอายุในวันที่ 13 มิถุนายน 2564
ผู้ใช้สิทธิแปลงสภาพจำนวนทั้งสิ้น 1,021.33 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นจำนวนหุ้นสามัญ 1,021.33 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินจากการแปลงสภาพ 16.34 ล้านบาท
การแปลงสภาพครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ทุกรายสละสิทธิ มีแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยเท่านั้น ที่ควักเงินสมทบทุนเข้าบริษัท ทั้งที่ราคาหุ้นบนกระดาน ไม่จูงใจให้ใช้สิทธิแปลงสภาพ เพราะถูกลากขึ้นลงอยู่แถว 1-2 สตางค์มายาวนาน
NEWS เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง ในบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG โดยถือในสัดส่วน 9.96% ของทุนจดทะเบียน รองจาก Chit Lom Limited ซึ่งซื้อหุ้นสัดส่วน 9.99% ของทุนจดทะเบียนมาจาก บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ซึ่งมี นายคีรี กาญจนพาสน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ในอดีต NEWS เป็นหุ้นที่ร้อนแรง มีประวัติอันโชกโชน และสร้างประวัตคิศาสตร์ เป็นหุ้นที่ระดมทุนถี่ยิบ โดยปี 2557 เพิ่มทุนถึง 11 ครั้ง แต่เงินที่ผู้ถือหุ้นใส่ถูกย่อยสลาย จนบริษัทประสบปัญหาฐานะทางการเงิน และถูกแขวนป้าย ”C” อยู่ เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน
WARRANT เป็นตราสารที่ NEWS นำมาใช้กระตุ้นราคาหุ้น แต่วอแรนต์แทบทุกรุ่นสิ้นใจอย่างสงบ โดยไม่มีการนำไปแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ เนื่องจากราคาหุ้นที่ซื้อขายในกระดาน ราคาต่ำกว่าราคาแปลงสภาพ ทำให้ค่าของวอแรนต์เมื่อวันสิ้นอายุที่ค่าเท่ากับศูนย์
นักลงทุนที่อยากได้วอแรนต์ เข้าไปไล่ซื้อหุ้น NEWS เพื่อหวังสิทธิวอแรนต์รวมทั้งนักเก็งกำไรที่แห่เข้าไปเล่นวอแรนต์ของ NEWS จึงบาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ
วอแรนต์เครื่องมือในการวางแผนทางการเงิน ถูกบริษัทจดทะเบียน นำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นราคาหุ้น หรืออาจถูกใช้เป็นกลไกในการปั่นราคาหุ้น รวมทั้งการใช้เป็นแท่นปั๊มพันธบัตรของผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียน
นักลงทุนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์ลงทุนยาวนาน จะหลีกเลี่ยงบริษัทที่ออกวอแรนต์ถี่ยิบหลายๆ รุ่น เพราะเห็นว่า เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจและมีวาระแฝงเร้นในการปั่นราคาหุ้น
ไม่มีเหตุผลที่บริษัทจดทะเบียนจะออกวอแรนต์มาชุดใหญ่ ออกแล้วออกอีกถึงครึ่งโหลหรือกว่าครึ่งโหล นอกจากมีเจตนาชัดเจนในการกระตุ้นราคาหุ้น
หลายสิบปีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ ยืนดูเกมเชือดหมู ปล่อยให้ยุทธการต้มตุ๋นประชาชนผู้ลงทุนดำเนินเรื่อยมาจนถึงวันนี้
และแม้จะมีนักลงทุนนับหมื่นนับแสน เสียหายถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัวกับวอแรนต์แต่ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์กลับไม่คิดจะแก้ไขอะไร ไม่คิดจะควบคุมการออกวอแรนต์
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายกับหุ้นขนาดเล็กตัวร้ายๆ ชุดใหญ่ รวมแล้วเกือบ 10 หลักทรัพย์ โดยมีหุ้นหลายตัว ถูกมาตรการกำกับการซื้อขายทั้งหุ้นสามัญตัวแม่ และวอแรนต์ตัวลูก สะท้อนให้เห็นว่า หุ้นขนาดเล็กตัวร้ายมักจะมีวอแรนต์ออกมากระตุ้นราคาหุ้น
และสะท้อนให้เห็นว่า ยังมีการลากราคาวอแรนต์ ล่อแมลงเม่ากันอยู่ ทั้งที่วอแรนต์ควรหมดยุค เป็นตราสารตายซากที่นักลงทุนเข็ดขยาด จนไม่มีใครเล่นแล้ว
วอแรนต์ยังเป็นเครื่องมือปั่นราคาหุ้นของเจ้ามือหุ้น และยังมีแมลงเม่าที่พร้อมจะบินเข้ากองไฟ แม้แมลงเม่าส่วนใหญ่ที่หลงไปเล่นวอแรนต์จะสูญพันธ์แล้วก็ตาม
NEWS-W6 ที่ปิดฉากลง เป็นอีกบทเรียนสำหรับนักลงทุนที่แหยมไปเก็งกำไรวอแรนต์ และเล่นหุ้นที่ปั๊ม วอแรนต์ออกมาถี่ยิบเพื่อปั่นราคาหุ้น