xs
xsm
sm
md
lg

KTC นำร่องถล่มหุ้นนอนแบงก์ / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากหุ้นกลุ่มแบงก์ถูกถล่มขายอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มนอนแบงก์ต่อคิวถูกเทขายตามมา ราคารูดยกแผง โดยหุ้นบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ตกเป็นเป้าหมายใหญ่ในการทุบขาย

การส่งสัญญาณถึงธนาคารแห่งประเทศไทยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหาหนี้ผู้กู้รายย่อยโดยการลดเพดานอัตราดอกเบี้ยลง สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อบริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อทั้งระบบ ไม่เฉพาะสถาบันการเงินเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงกลุ่มนอนแบงก์ด้วย

สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิตถูกระบุถึงการลดดอกเบี้ยเพื่อปัญหาหนี้ภาคประชาชน

หุ้นกลุ่มแบงก์และนอนแบงก์ถูกขายเทกระจาด เพราะถูกคาดหมายว่าจะได้รับผลกระทบ โดยรายได้มีแนวโน้มลดลง

กลุ่มนอนแบงก์เป็นธุรกิจที่รุ่งเรือง สร้างรายได้เป็นล่ำเป็นสันมานาน เพราะกินส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยงามๆ และโขกค่าธรรมเนียมจากผู้กู้ในทุกรูปแบบ จนผลประกอบการเติบโตสูงต่อเนื่อง และไม่มีหน่วยงานใดควบคุมกำกับดูแล

แต่ช่วงเวลาโกยเงินของกลุ่มนอนแบงก์ใกล้หมดลง เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มเข้ามาดูแลสินเชื่อกลุ่มนอนแบงก์มากขึ้น และอาจควบคุมอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ ขณะที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูง หลังจากที่ธนาคารออมสิน โดดร่วมลงสนามธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยมีกลุ่มบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SAWAD เป็นพันธมิตร

อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่เคยขูดรีดประชาชนในอัตราประมาณ 24% ถูกกดให้ลดฮวบลง โดยล่าสุดกลุ่ม SAWAD ประกาศสินเชื่อโครงการพิเศษอัตราดอกเบี้ยเพียง 11% เท่านั้น ซึ่งจะทำให้บริษัทอื่นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยลงตาม เพื่อรักษาฐานลูกค้า

KTC เป็นธุรกิจนอนแบงก์ขนาดใหญ่ รักษาผลกำไรที่ดีหลายปีติดต่อ แต่สถานการณ์กำลังเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับหุ้นนอนแบงก์อื่น โดยผลกำไรอาจไม่เติบโตสูงเหมือนในอดีตแล้ว เนื่องจากการแข่งขันสูง ส่วนต่างรายได้จากดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง และระบบการจัดทำบัญชีต้องเป็นมาตรฐานมากขึ้น

แต่การที่ KTC ถูกถล่มขายหนัก อาจมีความกังวลเกี่ยวกับนายระเทียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารซึ่งได้รับการต่ออายุเกษียณออกไปอีก 3 ปี และจะสิ้นสุดการต่ออายุในวันที่ 1 ธันวาคม 2565 หรืออีก 1 ปีเศษ

นอกจากนั้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายระเฑียร เพิ่งเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG และมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ ทำให้นายระเฑียร ต้องทุ่มเทกับ XPG มากขึ้น

ปลายปี 2565 ไม่รู้ว่า KTC จะต่ออายุนายระเฑียร อีกหรือไม่ และถ้าต่ออายุการทำงาน นายระเฑียร จะอยู่ต่อหรือไม่

อีกประเด็นที่ไม่อาจมองข้ามคือ นายระเฑียร จะอยู่จนครบวาระในปลายปี 2565 หรือไม่ เพราะ XPG ยังมีอะไรที่นายระเฑียร ต้องทำอีกเยอะ เพื่อสนองกลุ่มนักลงทุนที่เชื่อมั่นในฝีมือ และตามแห่เข้ามาลงทุนใน XPG โดยเฉพาะ "นายมงคล ประกิจชัยวัฒนา" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของ KTC ซึ่งทุ่มเงินกว่า 1.48 พันล้านบาท ซื้อหุ้นเพิ่มทุน XPG

ถ้านายระเฑียร ผละออกจาก KTC นายมงคลคงโละทิ้งหุ้น KTC เหมือนกัน

ความกังวลในแนวโน้มผลประกอบการ ทำให้เกิดแรงขายพุ่งเข้าใส่หุ้น KTC จนราคาร่วงแรงนำกลุ่มหุ้นนอนแบงก์ และอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า อนาคตของหุ้นกลุ่มนี้กำลังจะเปลี่ยนไป ไม่สดใสเหมือนเก่าแล้ว

หุ้นแบงก์และกลุ่มนอนแบงก์ช่วงนี้อาจต้องถอยออกมาห่างๆ ชั่วคราว รอจนกว่าคลื่นลมสงบ รอจนกว่าจะซึมซับรับผลกระทบจนจบ รอปรับฐานจนสะเด็ดน้ำก่อน

อยากจะช้อนหุ้นนอนแบงก์ รอบนี้ไม่ต้องรีบ








กำลังโหลดความคิดเห็น