'ออริจิ้น' คริปโตฯ ซื้อบ้าน-คอนโดฯ ขยายโอกาสบุกตลาดต่างชาติชอปอสังหาฯ

“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ก้าวสู่มิติใหม่วงการอสังหาฯ เดินหน้าผนึก “Bitkub” เปิดโอกาสนักลงทุนรุ่นใหม่ทั้งสายเทรดและสายฟาร์มเลือกซื้อบ้านและคอนโดฯ ทั่วกรุงเทพฯ-EEC แบบ NEXT LEVEL ผ่าน Bitkub Wallet รองรับเหรียญคริปโตฯ 3 สกุล ETH-USDT-BTC มั่นใจคริปโทฯ และ DeFi นวัตกรรมพลิกโลกการลงทุนสู่อนาคต เล็งขยายโอกาสบุกตลาดต่างชาติชอปอสังหาฯ แบบไร้รอยต่อ ปักธงประกาศใช้ครั้งแรกวันนี้

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือบิทคับ (Bitkub) ผู้นำด้านตลาดซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน ยกระดับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์สู่ NEXT LEVEL ด้วยการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้นทุกโครงการครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ผ่านสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี

“วันนี้ คริปโตเคอร์เรนซีกำลังกลายเป็นสื่อกลางการทำธุรกรรมทางการเงินแห่งอนาคต เราเห็นนักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซี ทั้งในลักษณะสายเทรดและสาย Yield Farming เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เราเห็นวิสัยทัศน์ของทั้งสตาร์ทอัปชั้นนำอย่าง Bitkub และสถาบันทางการเงินหลายๆ แห่งในการมุ่งหน้าพัฒนาเทคโนโลยีธุรกรรมการเงินแบบกระจายศูนย์กลาง หรือ Decentralized Finance หรือ DeFi ซึ่งจะยิ่งทำให้คริปโตเคอร์เรนซีมีบทบาทมากยิ่งขึ้น การเปิดให้ซื้อขายบ้านและคอนโดฯ ของเราด้วยคริปโตเคอร์เรนซีจะเป็นทั้งการรองรับโอกาสจากนักลงทุนสายเทรด สายฟาร์ม และการพลิกโฉมของนวัตกรรมในโลกแห่งอนาคต”

นอกจากนี้ การเปิดช่องทางให้ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ด้วยคริปโตเคอร์เรนซีผ่าน Bitkub จะเพิ่มโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อขายคอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้นได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการโอนเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี มีขั้นตอนที่สะดวกกว่าและใช้เวลารวดเร็วกว่าการโอนเงินในสกุลปกติ ช่วยส่งเสริมให้เกิดการทำธุรกรรมแบบไร้พรมแดน (Borderless)

เบื้องต้น บริษัทจะรองรับการซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมผ่านเหรียญ 3 สกุลที่ได้รับความนิยมจากทั้งสายเทรดและสายฟาร์มและมีโอกาสเติบโตในอนาคต ได้แก่ อีเธอเรียม (Ethereum - ETH) เทเทอร์ (Tether USD - USDT) และบิตคอยน์ (Bitcoin - BTC) โดยผู้ซื้อสามารถชำระผ่าน Wallet จากบัญชี Bitkub ในการซื้อบ้านจัดสรร ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยวแบรนด์ไบรตัน (Brighton) บริทาเนีย (Britania) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) และบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีเบลกราเวีย (Belgravia) รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมครอบคลุมทุกเซกเมนต์ เช่น สมาร์ทคอนโดมิเนียมสำหรับคน Gen Z แบรนด์ดิ ออริจิ้น (The Origin) ออริจิ้นปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) และบริกซ์ตัน (Brixton) คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์แบรนด์ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) และโซโห แบงค็อก (SOHO Bangkok) ไปจนถึงแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีอย่างพาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนอย่างแบรนด์แฮมป์ตัน (Hampton) โดยจะเริ่มให้บริการซื้อขายผ่านคริปโตเคอร์เรนซีได้ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.64

ด้าน นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ครั้งนี้ เป็นมิติใหม่ในการเชื่อมต่อการลงทุนทั้ง 2 รูปแบบคืออสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าด้วยกัน เพราะจากข้อมูลของ Bitkub พบว่า นอกจากผู้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีจะนำผลตอบแทนที่ได้ไปใช้ลงทุนต่อแล้ว ผู้ลงทุนจำนวนหนึ่งยังมักจะนำผลตอบแทนไปซื้อสินทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงอย่างรถยนต์และอสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อประโยชน์ใช้สอยส่วนตัวและเพื่อกระจายช่องทางการลงทุนด้วย

ทั้งนี้ บริษัทมีระบบรองรับการใช้จ่ายคริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ที่มีความเสถียร รักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน รวมถึงเจ้าหน้าที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าออริจิ้นซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมผ่าน Bitkub ได้อย่างไร้กังวลด้วย

สำหรับความร่วมมือดังกล่าวเป็นการเพิ่มโอกาสในการซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมด้วยการชำระเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมี 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1.เตรียม Bitkub Wallet ของคุณ หรือสมัคร Bitkub Wallet พร้อมยืนยันตัวตน (KYC) กรณีที่ยังไม่มี Bitkub Wallet สามารถสมัครสมาชิกใหม่ได้ที่ https://www.bitkub.com/signup

2.เตรียมเหรียญคริปโตฯ ที่จะใช้ชำระให้พร้อมใน Wallet

3.โอนเหรียญเพื่อชำระผ่าน QR CODE ที่เจ้าหน้าที่เตรียมให้เข้า Wallet ของ Origin Property

4.รอรับเอกสารยืนยันการชำระ

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 86 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2564) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill) เคนซิงตัน (Kensington) และบริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 133,000 ล้านบาท
2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ค้าปลีก
3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร