บิสซิเนสอะไลเม้นท์ โชว์ศักยภาพการก่อสร้างศูนย์โปรตอนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อเป็นศูนย์รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน เป็นเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าด้านการแพทย์ สามารถตรวจพบโรคมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจนถึงระยะแพร่กระจาย และทำการรักษาตรงจุด ช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดจากโรคมะเร็ง มั่นใจผลงานปี 64 สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายวรวิทย์ สีลภูสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและทรัพยากรมนุษย์ บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านติดตั้งชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษาชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยถึงความพร้อมของบริษัทฯ ที่ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งในทุกๆ ระยะ เพื่อเป็นทางเลือกให้ทำการรักษาได้ตรงจุดและหายขาด และทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
“บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นอันดับแรก เพราะผู้ป่วยคือผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจัดจำหน่ายโดยตรง มีความต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีระดับที่สูงและทันสมัย เพื่อให้เหมาะสมกับการรักษาอาการโรคมะเร็งในปัจจุบัน ซึ่งการใช้อนุภาคโปรตอนเป็นการรักษาด้วยรังสีที่สมบูรณ์แบบ เพราะสามารถให้ปริมาณรังสีที่สม่ำเสมอครอบคลุมเป้าการรักษา และยังมีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเซลล์มะเร็ง แพทย์จึงสามารถเพิ่มปริมาณรังสีสูงสุดที่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้หมด ในขณะเดียวกัน ลดผลข้างเคียงจากการรักษาได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยมะเร็งในเด็ก และในผู้สูงอายุ ซึ่งมีความทนทานต่อผลข้างเคียงได้น้อยจากการรักษา”
สำหรับโครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรงมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำ Customer Acceptance Test ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 95% และขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นขั้นตอนการเก็บข้อมูลเฉพาะของลำรังสีอนุภาคโปรตอน โดยข้อมูลนี้จะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการประมวลแผนการรักษาในระบบเครื่องวางแผนการรักษา (Treatment Planning System) โดยจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน เพื่อเตรียมพร้อมในการเริ่มรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอนต่อไป
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วมก่อตั้ง “โครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรงมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน” ซึ่งเป็นเครื่องแรกในภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เครื่องเร่งอนุภาคโปรตอนดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การก่อสร้างอาคาร การติดตั้งระบบสนับสนุน (supported Facility) ตลอดไปถึงการติดตั้งตัวเครื่อง และบริษัทฯ ได้สร้างทีมงานวิศวกรที่มีคุณภาพ และมีความเชี่ยวชาญให้เข้าใจในเทคโนโลยีชั้นสูง จากประสบการณ์ดังกล่าว ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถติดตั้งในโครงการต่อๆ ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพเท่ากับโครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรงมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ขอให้นักลงทุนทุกคนมั่นใจในศักยภาพของทีมบริหาร และบุคลากรขององค์กรว่า จะสามารถนำพาองค์กรเติบโตได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ไม่ได้มุ่งเน้นแต่ในด้านการตลาดเพียงอย่างเดียว เพราะบริษัทฯ ยังมีทรัพยากรที่มีคุณภาพในการนำเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อส่งต่อการรักษาที่ทันสมัยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อลดอาการเจ็บป่วย และ “ผู้ป่วย” ยังถือว่าเป็น Stakeholder ที่สำคัญอย่างที่สุด
ทั้งนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/64 แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่รายได้และกำไรของบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการส่งมอบเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งให้โรงพยาบาลภาครัฐที่เป็นคู่สัญญาได้ตามแผนงานที่วางไว้ โดยมีรายได้รวม 551.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 288.30 ล้านบาท หรือ 109.62% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 81.76 ล้านบาท
โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 2,188 ล้านบาท ส่วนใหญ่ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และอยู่ระหว่างเข้าร่วมประมูลในหลายโครงการ ทำให้เห็นถึงทิศทางธุรกิจในปีนี้ที่คาดว่ารายได้และกำไรจะมีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น