พริ้นซิเพิล แคปิตอล ออกหุ้นเพิ่มทุนขายให้ "ราช กรุ๊ป" จำนวนไม่เกิน 346,233,682 หุ้น ราคาหุ้นละ 4.09 บาท คิดเป็น 1,416,095,759.38 บาท เพื่อใช้เป็นทุนในการขยายงานตามแผน และ RATCH สนใจโมเดลการลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพ มีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้า เพื่อต่อยอดและพัฒนาธุรกิจบริการสุขภาพได้
นายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC แจ้งว่า ตามมติคณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 346,233,682 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดด (Private Placement) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 4.09 บาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,416,095,759.38 บาท ซึ่งมีส่วนลดประมาณ 9.3% ของราคาตลาด ให้แก่บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH และภายหลังการซื้อหุ้น RATCH จะเข้าถือหุ้นใน PRINC เป็นอันดับที่ 3
ทั้งนี้ การซื้อหุ้นดังกล่าวทาง RATCH มีความสนใจโมเดลการลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพมีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้า กล่าวคือเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูงและต้องใช้เวลาในการคืนทุน ที่สำคัญมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไปซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมและเศรษฐกิจในภาพรวม เป็นธุรกิจที่มีรายได้ประจำ สามารถทนทานต่อความผันผวนของเศรษฐกิจได้ดี และมีศักยภาพในการลงทุนได้จริง อีกทั้งยังมีอัตราการทำกำไรและผลตอบแทนในการประกอบธุรกิจที่ดี ซึ่งแสดงถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคง รวมถึง RATCH มีแผนที่จะขยายธุรกิจสู่ธุรกิจด้านสุขภาพ (Healthcare) จึงสามารถร่วมมือกับบริษัทฯ เพื่อต่อยอดและพัฒนาธุรกิจบริการสุขภาพได้ เช่น ร่วมลงทุนในการขยายโรงพยาบาลใหม่ เทคโนโลยีทางสุขภาพ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2564
นอกจากนี้ ทาง RATCH ยังได้ซื้อหุ้น PRINC เพิ่มจาก น.ส.สาธิตา วิทยากร จำนวน 34,623,369 หุ้น (คิดเป็นสัดส่วน 0.91%) ในราคาหุ้นละ 4.09 บาท คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้นทั้ง 2 รายการมูลค่า 1,557,705,338.59 บาท
ขณะที่ PRINC มีแผนการลงทุนและขยายกิจการของบริษัทฯ ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง จึงระดมทุนเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับรองรับการขยายกิจการในอนาคตได้อย่างทันการณ์ โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ในการขยายธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งตามแผนการลงทุนของบริษัทฯ ภายในปี 2564 จะมีการขยายโรงพยาบาล ทั้งการปรับปรุงและขยายโรงพยาบาลแห่งเดิม รวมถึงการลงทุนในโรงพยาบาลแห่งใหม่
โดยวิธีการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลเดิม และ/หรือการลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ ซึ่งคิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท รวมทั้งอาจนำไปใช้เป็นเงินหมุนเวียนในกิจการและหรือชำระหนี้บางส่วนให้แก่สถาบันการเงิน ซึ่งหากบริษัทฯ ต้องใช้เงินลงทุนเกินกว่าจำนวนเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทฯ จะพิจารณาใช้เงินกู้ยืมสถาบันการเงินต่อไป