"ต๊อบ เถ้าแก่น้อย" ยันไม่ขายกิจการครอบครัว แม้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นของตระกูลลงเหลือเพียงแค่ 57.84% จากเดิมซึ่งครอบครัว "พีระเดชาพันธ์" ถือรวมกันกว่า 70% ชี้กระแสเทรนด์ชานมไข่มุก และสาหร่ายเปลี่ยน ตลาดเริ่มอิ่มตัว เล็งหาช่องทางการขายและสินค้าใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพ
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ด แอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN เปิดเผยถึงกรณีการลดสัดส่วนการถือครองหุ้นธุรกิจกงสีในครอบครัว โดยออกมาตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่า บริษัทจะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไป แม้ว่าจะมีการลดสัดส่วนการถือครองหุ้นลง โดยยืนยันว่าจะไม่ขายกิจการเปลี่ยนมือไปสู่ผู้อื่นอย่างแน่นอน แม้ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวลือต่างๆ มากมาย
โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการพูดคุยกับพันธมิตร เพื่อหาผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจำหน่ายสินค้าใหม่ๆ เข้ามา เนื่องจากแนวโน้มของสาหร่ายและชานมไข่มุกเริ่มถึงจุดอิ่มตัว และเทรนด์สินค้ามีการปรับเปลี่ยนไปตามกระแสนิยม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะทำให้เป้าหมายของบริษัทฯ ไปสู่จุดหมายได้เร็วมากขึ้น โดยบริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ายอดขายให้ได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 พร้อมทั้งการนำ TKN ไปสู่ความเป็น Global Brand โดยจะมุ่งเน้นการขยายตลาดผ่านพันธมิตรทางธุรกิจในลักษณะร่วมทุน หรือ JV ซึ่งถือเป็นช่องทางเพิ่มมูลค่าและสร้างผลตอบแทนทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่กับการสร้างแบรนด์สินค้าของบริษัทให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
“ยังคงขอยืนยันว่าไม่คิดที่จะขายกิจการออกไปอย่างแน่นอน แต่ไม่ปฏิเสธว่ามีบริษัทที่สนใจเข้ามาพูดคุยอยู่บ้าง ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตแบบ In-organic Growth เพื่อต่อยอดเพื่อไปสู่จุดหมายให้เร็วมากยิ่งขึ้น ผ่านการทำ JV ส่วนการขายหุ้นแบบบิ๊กล็อตในช่วงที่ผ่านมาเพื่อบริหารสภาพคล่องทางการเงิน ไม่เกี่ยวข้องกับการขายกิจการแต่อย่างใด และมั่นใจได้ว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ยังถือหุ้นมากกว่า 50% อย่างแน่นอน” นายอิทธิพัทธ์ กล่าวทิ้งท้าย
