หุ้นปิดลบ 7.08 จุด แรงซื้อ DELTA ร้อนแรงช่วยลดช่วงลบแม้ยังกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดยังรับแรงกดดันจากการปรับน้ำหนักหุ้นไทยของ MSCI ทำให้เกิดความวิตกต่อกระแสเงินทุนไหลออก สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดตลาดคงจะแกว่งออกด้านข้าง
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตั้งแต่เปิดเทรดในช่วงเช้า จากแรงขายลดความเสี่ยงหลังกังวลอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ คาดเร่งตัวขึ้นมาที่ 3.6% จากเดือนก่อน 2.6% ซึ่งตลาดจับตาโมเมนตัมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะร้อนแรงไปหรือไม่ เพราะอาจมีผลต่อการทำ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
นอกจากนี้ ยังรับแรงกดดันจากการปรับน้ำหนักของ MSCI ด้วย โดย MSCI ได้ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยลง ทำให้เกิดความวิตกต่อกระแสเงินทุนไหลออก และยังถอดหุ้นขนาดใหญ่อย่าง KBANK-F ออกจากการคำนวณ MSCI Global Standard จึงกดดันให้มีแรงขายหุ้น KBANK ออกมามากในวันนี้
แต่ช่วงบ่ายนี้ตลาดรีบาวนด์กลับขึ้นมาได้ค่อนข้างแรงระหว่างเทรด หลังจากราคาหุ้น DELTA ปรับขึ้นมาอย่างร้อนแรง ซึ่งมีผลต่อดัชนีค่อนข้างมาก โดยทุก 10 บาทมีผลต่อดัชนี 1 จุด ซึ่งราคาหุ้น DELTA ปรับขึ้นมากว่า 100 บาทระหว่างเทรดภาคบ่ายจึงดันดัชนีกลับขึ้นมาได้กว่า 10 จุด ลดช่วงลบไปได้มากจนเกือบจะขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ และยังทำให้มีแรงซื้อกลับหุ้นตัวอื่นด้วยระหว่างที่ดัชนีรีบาวนด์ขึ้นมาสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้บ้าง ดังนั้น วันนี้ถือได้ว่าหุ้น DELTA ช่วยให้ Sentiment ตลาดดีขึ้น
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างเคลื่อนไหวในแดนลบ และตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ ช่วงรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาคืนนี้ นอกจากนี้ ยังรอติดตามตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค.ของยุโรป และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะออกมาในวันนี้ด้วยเช่นกัน
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,571.85 จุด ลดลง 7.08 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.45% มูลค่าการซื้อขาย 117,160.58 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งออกด้านข้าง โดยมีแนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590 จุด