นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีผลกระทบต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2564 และยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลต่อผู้ประกอบธุรกิจในวงกว้าง และประเมินว่าในบางธุรกิจอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงปกติ ธนาคารกรุงเทพจึงพร้อมขานรับมาตรการของ ธปท. และกระทรวงการคลัง ในการร่วมส่งมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจผ่าน 2 มาตรการ
มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ สามารถประคับประคองและฟื้นฟูธุรกิจให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อได้ สำหรับทั้งลูกค้าปัจจุบันที่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจกับธนาคารไม่เกิน 500 ล้านบาท ณ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งสามารถขอวงเงินสินเชื่อฟื้นฟูได้สูงสุด 30% ของวงเงินเดิม สูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาท (นับรวมกับวงเงิน Soft Loan เดิมที่เคยได้รับตาม พ.ร.ก.) และลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินใด สามารถขอสินเชื่อได้สูงสุด 20 ล้านบาท โดยนับรวมวงเงินจากทุกสถาบันการเงิน
โดยในช่วง 5 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยไม่เกิน 5% ต่อปี โดยช่วง 2 ปีแรก คิด 2% ต่อปี ทั้งยังได้รับยกเว้นดอกเบี้ย 6 เดือนแรกจากการสนับสนุนของกระทรวงการคลัง ขณะเดียวกัน ธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขอสินเชื่อเพื่อช่วยลดภาระผู้ประกอบการให้ก้าวข้ามสถานการณ์ที่ยากลำบากในเวลานี้ โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จะเป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อทุกราย คิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันไม่เกิน 1.75% ต่อปี โดยรัฐบาลจะชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกันให้บางส่วน
มาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ (Asset Warehousing) เพื่อลดภาระทางการเงินของผู้ประกอบธุรกิจที่มีศักยภาพ ซึ่งได้รับผลกระทบและต้องใช้ระยะเวลานานในการฟื้นตัว ด้วยการโอนทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันชำระหนี้ให้แก่ธนาคารตามราคาที่ตกลงกัน โดยผู้ประกอบธุรกิจสามารถเช่าทรัพย์สินนั้นเพื่อไปประกอบธุรกิจได้ตามอัตราค่าเช่าที่ตกลงกัน และให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจในการซื้อทรัพย์คืน ภายใน 3-5 ปี
นายสุวรรณ กล่าวอีกว่า การช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจให้มีสภาพคล่องสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จะเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม และช่วยพยุงการจ้างงานอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพได้ออกมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบแก่ลูกค้ากลุ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งต่อมาตรการความช่วยเหลือของภาครัฐให้เข้าถึงลูกค้าและผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง ซึ่งยืนยันถึงจุดยืนของธนาคารกรุงเทพในการเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่พร้อมเคียงข้างลูกค้าตลอดเวลา แม้ในยามที่ยากลำบากก็จะก้าวข้ามสถานการณ์เหล่านั้นไปด้วยกัน
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ของธนาคารกรุงเทพ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ หรือสาขา หรือสำนักธุรกิจของธนาคาร เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงติดตามข้อมูลอื่นที่น่าสนใจของธนาคารได้จากสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคารกรุงเทพทุกช่องทาง