ทิสโก้คาดปีนี้สินเชื่อทรงตัว ตั้งการ์ดสูงรองรับเอ็นพีแอลเพิ่ม

ทิสโก้คาดการณ์สินเชื่อปีนี้อาจไม่เติบโต จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงหลังโควิด-19 ระบาดระลอก 3 ขณะที่เอ็นพีแอลมีแนวโน้มเพิ่ม แต่มีการตั้งสำรองฯ เพื่อรองรับในระดับสูงอยู่แล้ว

นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TISCO) เปิดเผยว่า สินเชื่อของธนาคารในปีนี้มีแนวโน้มทรงตัว ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ และความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ทำให้ธนาคารต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังในทุกด้าน โดยปัจจุบันสินเชื่อรวมของธนาคารยังหดตัวอยู่ 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่หดตัว 7-8%

"ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่สินเชื่อจะกลับมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นอยู่ ความไม่แน่นอนสูง ซึ่งในส่วนของสินเชื่อรายย่อยของเราขณะนี้อยู่ในสถานะที่ชะลอตัวน้อยลง และเติบโตได้มากกว่าปีก่อน แต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้พอร์ตโดยรวมโตขึ้นได้ ขณะเดียวกันธนาคารเองมีความระมัดระวังในการปล่อยกู้ด้วยเช่นกัน"

สำหรับการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญนั้น จะพิจารณาตามความเสี่ยงของพอร์ตเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันถือว่าธนาคารสามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ค่อนข้าง มีการตั้งสำรองฯ รองรับความเสี่ยงในอนาคตไว้ในระดับสูงต่อเนื่องอยู่แล้ว หากสถานการณ์เป็นไปตามที่คาดยังครอบคลุมได้ หรือจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปัจจุบันที่ระดับ 2.5% นั้น หากเพิ่มขึ้นอีก 1% เป็น 3.5% ถือว่ายังอยู่ในระดับคาดการณ์ โดยปัจจุบัน Coverage ratio ยังอยู่ในระดับสูงประมาณ 222% ซึ่งการตั้งสำรองฯ จะลดลงสู่ระดับปกติจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก

ส่วนสินเชื่อ Auto Cash ซึ่งดำเนินการผ่านแบรนด์ "สมหวัง เงินสั่งได้" นั้น ยังคงชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ และเป็นแนวทางของธนาคารเองเพื่อรักษาคุณภาพของสินเชื่อ ซึ่งแม้ปัจจุบันจะมีนอนแบงก์หลายแห่งเข้ามาในธุรกิจนี้มากขึ้น จะทำให้ดึงลูกค้าของเราไปบ้าง แต่เนื่องจากสมหวังฯ เป็นการดำเนินการภายใต้ธนาคารที่มีการกำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงถือว่าไม่ใช่อยู่ในตลาดเดียวกัน 100%

ด้านนโยบายการจ่ายเงินปันผลนั้นคงต้องรอดูนโยบายจาก ธปท.เป็นหลัก แต่ทางธนาคารจะพยายามรักษาระดับเงินปันผลให้ใกล้เคียงกับปีก่อน รวมถึงจะให้บริษัทลูก เช่น บล. บลจ. ประกัน จ่ายในอัตราที่สูงสุดเช่นกัน