“บางกอกชีทเม็ททัล” ได้ฤกษ์เปิดตัว “Mini EV Tuk-Tuk หรือมินิตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า” ช่วงไตรมาส 2 ของปี ตั้งเป้าผลิตปีแรก 300-400 คัน เชื่อมั่นได้รับการตอบรับอย่างดี หลังลูกค้าบางส่วนสนใจติดต่อขอจองซื้อรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ก่อนเผยโฉมอย่างเป็นทางการ
นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยถึงผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อต่อยอดธุรกิจปี 2564 ว่า ในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้ฤกษ์เปิดตัว Mini EV Tuk-Tuk หรือมินิตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นพาหนะรับส่งผู้โดยสารส่วนบุคคลตามรีสอร์ต โรงแรม โรงพยาบาล รถตุ๊กตุ๊กเพื่อขายอาหาร (Food Tuk-Tuk)และอื่นๆ หลังใช้เวลาในการศึกษาและพัฒนามากกว่า 5 ปี โดยระหว่างการศึกษาทดลอง และพัฒนาประสิทธิภาพ ได้นำ Mini EV Tuk-Tuk มาใช้เป็นพาหนะรับส่งพนักงานบริษัท และขนสัมภาระต่างๆ ภายในโรงงานอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าของบริษัทฯ ได้รับความสนใจกลายเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้าง โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เชิญบริษัทฯ นำรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าร่วมจัดแสดงโชว์ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ที่ไปร่วมงาน เช่นเดียวกับคณะกรรมาธิการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร ที่ให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมที่โรงงานอีกด้วย
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทลูกขึ้นในชื่อ “บีเอ็ม อินโนเทค อินดัสตรี้” (BMI) สำหรับทำระบบออโตเมชันโดยเฉพาะ เน้นในการรับออกแบบระบบการผลิตแบบสำเร็จรูปขนาดย่อมให้กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างมาก เช่น ทำระบบหุ่นยนต์เชื่อม พร้อม Jig& Fixture สำเร็จรูปให้ลูกค้าสามารถนำไปใช้ได้ทันที นอกจากนี้ บี เอ็ม ไอ ยังรองรับการพัฒนารถไฟฟ้า และรับจ้างผลิตรถไฟฟ้า และชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
ในการผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าของบริษัทจะเริ่มต้นดำเนินการผลิต “Mini EV Tuk-Tuk หรือ มินิ ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า” ก่อนเป็นอันดับแรก สมรรถนะของรถจะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 กิโลวัตต์ ซึ่งไม่ต้องจดทะเบียน แต่จะต้องซื้อ พ.ร.บ.เพื่อคุ้มครองบุคคลที่ 3 และบริษัทฯ มองว่า Mini EV Tuk-Tuk คือโอกาสที่จะสามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ก่อน เนื่องจากราคาไม่สูง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 85,000 บาท/คัน ไลน์ผลิตจะเน้นคันต่อคัน ใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต โดยบริษัทฯ จะออกแบบ และผลิตตัวถัง Mini EV Tuk-Tuk ทั้งหมดเพื่อลดต้นทุนลง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ซึ่งจะมีเพียงมอเตอร์ และแบตเตอรี่เท่านั้นที่ต้องสั่งซื้อ สำหรับลูกค้าเป้ากลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มโรงแรม รีสอร์ต โรงงาน โรงพยาบาล หมู่บ้านต่างๆ และรถตุ๊กตุ๊กเพื่อขายอาหาร (Food Tuk-Tuk) เป็นต้น
“หากประชาชนทั่วไปสนใจอยากซื้อมินิ ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าใช้งาน อาจไม่ต้องจดทะเบียน แต่จะต้องมี พ.ร.บ. ซึ่งบริษัทฯ จะต้องหารือกับ กระทรวงอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสมอ. เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ เมื่อทางกระทรวงอุตสาหกรรม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุมัติให้จดทะเบียนบุคคลที่ 3 หรือ พ.ร.บ.ได้ บริษัทฯ เชื่อว่าโอกาสในการขยายตลาดมินิ ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าจะมีมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการผลิตเริ่มต้นที่ปีละประมาณ 300-400 คัน” นายธีรวัต กล่าว
ระหว่างที่รอการผลิตในเชิงพาณิชย์ บริษัทฯดำเนินการผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าต้นแบบให้แก่บริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด นำไปทดลองใช้เป็นรถไอศกรีมเคลื่อนที่เพื่อสร้างอาชีพให้คนพิการ และถือเป็นผลงาน CSR เพื่อมอบสิ่งดีๆ ให้แก่สังคม ซึ่งรถไอศกรีมเคลื่อนที่นี้ได้ทดลองวิ่งแล้วตามจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย และผลลัพธ์ค่อนข้างมีประสิทธิภาพอย่างที่คาดหวังไว้ นอกจากเป็นการสร้างอาชีพให้ผู้พิการแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีก ได้แก่ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ลดฝุ่น PM2.5 ลดคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมตุ๊กตุ๊กในเมืองไทยอีกด้วย
ในอนาคต บริษัทฯ มีเป้าหมายจะผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าส่วนบุคคล 2 รูปแบบ คือ ใช้บรรทุกส่วนบุคคล และใช้บรรทุกสิ่งของไม่เกิน 1 ตัน ขนาดกะทัดรัด ซึ่งกำลังมอเตอร์ของรถจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 กิโลวัตต์ สามารถออกถนนทางหลวงได้แต่ต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน บริษัทฯ คาดว่าในอนาคตจะมีการผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าในรูปแบบอื่นๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการทดสอบ และพัฒนาประสิทธิภาพรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าเพื่อให้ได้ในราคาที่จับต้องได้
สำหรับรถ Mini EV Tuk-Tuk หรือมินิ ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการประมาณไตรมาส 2 ของปี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการอนุมัติจากกรมขนส่งทางบก ถึงแม้จะยังไม่มีการเปิดตัวรถ Mini EV Tuk-Tuk อย่างเป็นทางการ แต่มีลูกค้าบางส่วนติดต่อจองซื้อเข้ามาแล้ว คาดว่าเมื่อถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า พร้อมดันรายได้ของบริษัทฯ ในปี 64 โตตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน