xs
xsm
sm
md
lg

"โคลเวอร์ เพาเวอร์" ยื่นไฟลิ่งขาย IPO จำนวน 320 ล้านหุ้น เล็งเข้าจดทะเบียนใน SET

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"โคลเวอร์ เพาเวอร์" ยื่นไฟลิ่งขาย IPO จำนวน 320 ล้านหุ้น เล็งเข้าจดทะเบียนใน SET โดยมี บล.ทรีนีตี้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เผยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจและคืนหนี้

บมจ.โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 320 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยมี บล.ทรีนีตี้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจด้านวิศวกรรม และธุรกิจอื่นที่สนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องด้านพลังงานแบบครบวงจร มีวัตถุประสงค์จะระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน และ/หรือลดภาระหนี้สินของกลุ่มบริษัท รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท โดยจะใช้เงินระดมทุนในช่วงปี 64-65

ธุรกิจของกลุ่ม CV แบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า กลุ่ม CV มีธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ ชีวมวล ขยะ ก๊าชชีวภาพ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม เป็นต้น โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค.63 มีโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 26.2 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 โครงการ ดำเนินการภายใต้ CV, CPL และ RTB และโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จำนวน 1 โครงการ ดำเนินการภายใต้ CPX

2.ธุรกิจด้านวิศวกรรม มุ่งเน้นงานให้บริการงานก่อสร้างโรงไฟฟ้ากลุ่มพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวมวล ขยะ และชีวภาพ โครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่องด้านพลังงาน และงานโครงการที่เกี่ยวเนื่อง โดยดำเนินงานให้บริการงานด้านการออกแบบ จัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และก่อสร้าง (EPC) แบบครบวงจร ให้แก่โรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทฯ และลูกค้าทั่วไป โดยดำเนินกิจการภายใต้ SBC และ SBE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น 100%

3.ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียน บริษัทฯ ประกอบธุรกิจให้บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา (Operation and Maintentance : O&M) ให้แก่ลูกค้าโรงไฟฟ้าทั่วไป มุ่งเน้นให้บริการเดินเครื่องและบำรุงโรงไฟฟ้ากลุ่มพลังงานจากพลังงานหมุนเวียน โดยดำเนินกิจการภายใต้ SBE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CV ถือหุ้น 100%

สำหรับเป้าหมายในปี 64-66 กลุ่มบริษัทฯ มุ่งเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั้งประเทศไทยและประเทศที่กำลังเติบโตด้านอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน เน้นลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนควบคู่กับงานด้านวิศวกรรม EPC Turnkey แบบครบวงจร ในกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ ชีวมวล ขยะ และก๊าซชีวภาพ รวมถึงพลังงานสะอาด ได้แก่ แสงอาทิตย์ และพลังงานลม

โครงการในอนาคตแบ่งตามสถานะการพัฒนาโครงการมีดังนี้ โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ โรงคัดแยกและแปรรูปขยะมูลฝอยเพื่อผลิตเป็น RDF ขนาด 120 ตัน/วัน จ.พิจิตร มูลค่าเงินลงทุนตามสัดส่วนถือหุ้นไม่เกิน 210 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 4/64 และโรงคัดแยกและแปรรูปขยะมูลฝอยเพื่อผลิต RDF ขนาด 200 ตัน/วัน เมืองเวียงจันทน์ สปป.ลาว มูลค่าเงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นไม่เกิน 120 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 4/64

โครงการที่อยู่ระหว่างเข้าซื้อกิจการ คือ โรงไฟฟ้าแบบพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าชธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ขนาด 7.36 เมกะวัตต์ สัดส่วนถือหุ้น 100% มูลค่าเงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 170 ล้านบาท คาดว่าจะเข้าทำรายการภายในเดือน เม.ย.64 และโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา คือ โรงไฟฟ้าขยะ ขนาด 6 เมกะวัตต์ เมืองเวียงจันทน์ สปป.ลาว มูลค่าเงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นไม่เกิน 140 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 4/66

ณ วันที่ 31 มี.ค.64 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 640 ล้านบาท และทุนที่เรียกชำระแล้ว 480 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 960 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วเต็มจำนวน

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ประกอบด้วย ครอบครัวศักดิ์สิทธิเสรีกุล ถือหุ้น 361,008,000 หุ้น คิดเป็น 37.6% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 28.2% ครอบครัวบัณฑิตกฤษดา ถือหุ้น 214,028,000 หุ้น คิดเป็น 22.4% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 16.7% ครอบครัวเลิศเรืองศุภกุล ถือหุ้น 187,283,000 หุ้น คิดเป็น 19.5% จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 14.6%

ผลประกอบการปี 61-63 บริษัทมีรายได้รวม 402.32 ล้านบาท 644.45 ล้านบาท และ 2,520.59 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่มีกำไรสุทธิ (ขาดทุน -4.78 ล้านบาท) 35.20 ล้านบาท และ 215.67 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 63 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 14.47% และอัตรากำไรสุทธิ 8.73%

ณ สิ้นปี 63 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 1,954.68 ล้านบาท หนี้สินรวมเท่ากับ 1,350.74 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 603.94 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมาย


กำลังโหลดความคิดเห็น