xs
xsm
sm
md
lg

ความไม่ปกติหุ้น ZMICO / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราคาหุ้นบริษัท ซีมิโก้ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO อ่อนตัวลงมาแล้ว หลังจากตลาดหลักทรัพย์ออกประกาศด่วน เมื่อปิดการซื้อขายหุ้นภาคเช้าวันอังคารที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เตือนให้นักลงทุนระมัดระวัง เนื่องจากตรวจสอบพบความไม่ปกติของสภาพการซื้อขายหุ้น ZMICO

แม้ว่าวันที่ตลาดหลักทรัพย์ออกประกาศเตือน ราคาหุ้น ZMICO จะไม่สะทกสะท้าน และยังปรับตัวขึ้นต่อ แต่เมื่อวันพุธที่ 31 มีนาคม ก็วิ่งต่อไม่ไหว ถูกเทขายจนรูดลงมาปิดที่ 4.88บาท บาท ลดลง 8 สตางค์

รอบขาขึ้นของ ZMICO คงปิดฉากลงแล้ว หลังจากวิ่งมาตลอด 2 เดือน และราคาปรับตัวขึ้นเกือบ 400%

เหตุผลของความร้อนแรงของราคาหุ้นเกิดจากปัจจัยเดียวคือ การที่นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 6.047% ของทุนจดทะเบียนใน ZMICO

แม้จะมีปัจจัยสนับสนุนที่พอจะหยิบยกมาอ้างอิงได้ แต่ราคาหุ้นที่ร้อนแรงมากเกินไป ทำให้ตลาดหลักทรัพย์เห็นว่า สภาพการซื้อขายหุ้นเปลี่ยนแปลงจากสภาพปกติ ซึ่งสอดคล้องกับความรู้สึกของนักลงทุนทั่วไป

หน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์คงไม่จบเพียงแค่ การประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น ZMICO ถึง 3 ครั้ง การสอบถามถึงพัฒนาการใดๆ ของบริษัทที่อาจมีผลต่อราคาหุ้นถึง 3 รอบ และการออกคำเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย

แต่จะต้องเข้าไปตรวจสอบความไม่ปกติของสภาพการซื้อขายหุ้น ZMICO เช่นเดียวกับหุ้นที่มีพฤติกรรมการซื้อขายไม่ปกติตัวอื่นๆ

เพียงแต่กระบวนการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติมักล่าช้ามาก โดยอาจต้องใช้เวลายาวนาน 3-5 ปี จึงรู้ว่าใครเข้าไปปั่นหุ้นตัวใด

เช่นเดียวกัน หุ้น ZMICO ที่พุ่งทะยานขึ้นมา 400% ภายในเวลาไม่ถึง 4 เดือน ถ้าตลาดหลักทรัพย์พบกลุ่มคนที่เข้าไปปั่น อย่างเร็วอีก 3 ปี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงจะประกาศกล่าวโทษ หรือดำเนินคดีทางแพ่ง

ไม่รู้ว่ากระบวนการตรวจสอบพฤติกรรมการปั่นหุ้นมีความซับซ้อนเพียงใด จึงทำให้ขั้นตอนการดำเนินคดีกับแก๊งปั่นหุ้นใช้เวลายาวนาน และหลายคดีนานจนประชาชนผู้ลงทุนลืมไปแล้วว่า หุ้นตัวใดมีพฤติกรรมปั่นอย่างไร และไม่ให้ความสำคัญกับข่าวการประกาศกล่าวโทษแก๊งปั่นหุ้น ทั้งที่เป็นพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุน

ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์พยายามที่จะกระชับขั้นตอนการดำเนินคดีปั่นหุ้นให้รวดเร็วขึ้น โดยตั้งเป้าจะสรุปคดีภายใน 2 ปี แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะคดีล่าสุด การกล่าวโทษแก๊งทุจริตน้ำมันปาล์มดิบ ในบริษัท โกลบอลกรีนเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ยังใช้เวลาประมาณ 3 ปี

กระบวนการดำเนินคดีแก๊งปั่นหุ้นไม่อาจรู้ได้ว่า ล่าช้าในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลและหลักฐานการกระทำผิดเบื้องต้นของตลาดหลักทรัพย์ หรือขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน สรุปสำนวนเพื่อกล่าวโทษหรือดำเนินคดีทางแพ่งของ ก.ล.ต.

ถ้ากระบวนการกล่าวโทษความผิดปั่นหุ้น ยาวนานเกินไป มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะตัดตอนกระบวนการกล่าวโทษดำเนินคดี เพื่อให้ประชาชนผู้ลงทุนรับข่าวสารหุ้นที่พบความผิดปกติได้รวดเร็วขึ้น

ตลาดหลักทรัพย์ในฐานะหน่วยงานต้นน้ำ การตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายหุ้น และสามารถตรวจสอบรายการซื้อขายได้ภายในเวลาสั้น เพราะสามารถขอข้อมูลการซื้อขายและรายชื่อผู้ที่ซื้อขายจากบริษัทโบรกเกอร์ได้

เมื่อตรวจสอบพบว่า หุ้นตัวใดมีการซื้อขายที่ผิดปกติ และมีกลุ่มที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายสร้างราคาหุ้นอาจแถลงความคืบหน้าในผลการตรวจสอบให้ประชาชนผู้ลงทุนรู้ ก่อนส่งข้อมูลและหลักฐานต่อให้ ก.ล.ต.ตรวจสอบในเชิงลึก และรวมรวบหลักฐานดำเนินคดี

การเปิดเผยผลการตรวจสอบในเบื้องต้นของตลาดหลักทรัพย์ ไม่จำเป็นต้องระบุกลุ่มบุคคลที่อยู่ในข่ายกระทำความผิด ไม่จำเป็นต้องชี้ชัดว่าหุ้นตัวใดมีการปั่นหรือไม่ เพียงแต่แถลงถึงผลการตรวจสอบที่มีข้อมูลหลักฐานที่เข้าข่ายการปั่นหุ้นเท่านั้น

ผลการตรวจสอบในเบื้องต้นของตลาดหลักทรัพย์จะช่วยให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนหุ้นที่มีพฤติกรรมปั่น

ถ้าไม่มีข้อจำกัดทางกฎหมายหรือไม่ ตลาดหลักทรัพย์น่าจะเปิดเผยถึงผลการตรวจสอบการปั่นหุ้นเบื้องต้นให้สาธารณชนรับรู้ โดยนำร่องที่หุ้น ZMICO

ถ้าไม่พบความผิดปกติ ถือว่าปิดคดี

แต่ถ้ามีข้อมูลหลักฐานบ่งชี้ว่า มีกลุ่มคนก่อพฤติกรรมเข้าข่ายปั่น ตลาดหลักทรัพย์อาจแถลงความคืบหน้าการตรวจสอบเบื้องต้น

เปิดให้นักลงทุนรู้ว่า หุ้นที่พุ่งทะยาน 400% ไม่ใช่การเก็งกำไรปกติ แต่มีกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง และก่อพฤติกรรมเข้าข่ายปั่น ZMICO








กำลังโหลดความคิดเห็น