ตลาดหุ้นเอเชียปรับลบตามทิศทางดาวโจนส์ บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ พุ่งกดดันตลาด

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งจะเปิดเผยแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในวันนี้

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,452.21 จุด ลดลง 1.17 จุด หรือ -0.13%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,278.33 จุด ลดลง 154.37 จุด หรือ -0.52% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,802.53 จุด เพิ่มขึ้น 225.03 จุด หรือ +0.79%

นักลงทุนเทขายหุ้นเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 1.77% แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อคืนนี้ โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่างๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุนและลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

นักลงทุนยังจับตาแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 3 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยคาดว่าเขาจะเปิดเผยโครงการดังกล่าวในวันนี้ (31 มี.ค.) รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน มี.ค.ของจีนซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน มี.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 51.9 จากระดับ 50.6 ในเดือน ก.พ. ซึ่งขยายตัวรวดเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 51.0 เนื่องจากโรงงานต่างๆ ที่ปิดดำเนินงานในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมานั้น ได้กลับมาเปิดไลน์การผลิตอีกครั้ง เพื่อรองรับความต้องการที่ฟื้นตัวขึ้น