ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าบวกตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) ขานรับข่าวประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2563
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,447.20 จุด เพิ่มขึ้น 10.37 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,287.74 จุด เพิ่มขึ้น 76.10 จุด หรือ +0.26% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 29,550.37 จุด เพิ่มขึ้น 164.76 จุด หรือ +0.56%
ปธน.ไบเดน ได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์แล้วเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐฯ (11 มี.ค.) หลังจากร่างกฎหมายได้ผ่านความเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับล่าสุดนี้นับเป็นฉบับที่ 6 ที่สภาคองเกรสสหรัฐฯ ให้การอนุมัตินับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อกว่า 1 ปีที่ผ่านมา และการลงนามของ ปธน.ไบเดน จะทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานในปัจจุบันจะหมดอายุลง
ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐฯ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 712,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 725,000 ราย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ