หุ้นไทยปิดลบ 4.86 จุด นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงจากปัจจัยลบรุมเร้าทั้งจากราคาน้ำมันโลกร่วง ฟุตซี่ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยมีผลวันนี้ และ Bond Yield สูงขึ้นหลังคาดอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เร่งตัวจากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นเร็วกว่าคาดรับแรงหนุนวัคซีนโควิด-19 และเม็ดเงินมหาศาลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ มองแนวโน้มสัปดาห์หน้าแกว่งตัวในกรอบแคบ ให้แนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,570 จุด แนะจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่งประเทศ โดยได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบโลกร่วงลงแรง และกังวลฟุตซี่ปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทย (FTSE Rebalance) มีผลวันนี้ รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (Bond Yield) ดีดขึ้นมาแรง
ทั้งนี้ Bond Yield ปรับขึ้นจากความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าจะฟื้นตัวเร็วกว่าคาด หลังจากมีการฉีดวัคซีนโควิ ด-19 ได้เร็วขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หนุนให้มีเม็ดเงินจำนวนมากเข้ามาเพิ่มสภาพคล่องในตลาด อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ จึงคาดว่าเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้น
นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น ขณะที่ประเด็น FTSE Rebalance ทำให้มีแรงขายหุ้นบิ๊กแคป ได้แก่ PTT, ADVANC, CPALL, AOT เป็นต้น รวมแล้วมีผลต่อดัชนีกว่า 10 จุด
นอกจากนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศมาตรการผ่อนคลาย โดยเฉพาะการลดระยะเวลากักตัวเหลือ 10 วันจาก 14 วัน ยกเว้นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เชื้อโรคกลายพันธุ์ และจุดเริ่มต้นการเปิด Area Quanrantine ก็นับเป็นข่าวดี อย่างไรก็ดี การฉีดวัคซีนในไทยมองว่าล่าช้า ซึ่งน่าจะเห็นการฉีดได้มากขึ้นในเดือน เม.ย.-พ.ค.
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,563.96 จุด ลดลง 4.86 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.31% มูลค่าการซื้อขาย 88,717.85 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้าน่าจะปรับตัวในกรอบแคบๆ ให้แนวรับไว้ที่ 1,550 จุด แนวต้านที่ 1,570 จุด โดยให้ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดในวันที่ 22 มี.ค.นี้ในหัวข้อนวัตกรรมในยุคดิจิทัล และวันที่ 23 มี.ค.จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากนั้นวันที่ 24 มี.ค.จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภา ในหัวข้อ "กฎหมายช่วยเหลือและเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19