บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ นัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2564 วันที่ 18 มีนาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติเห็นชอบให้บริษัทฯ ประสานงานร่วมกับ AGC Inc. เกี่ยวกับแผนการเพิกถอนหลักทรัพย์ของ บมจ.วีนิไทย (VNT) จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ VNT (โดยไม่รวมหุ้นสามัญของ VNT ที่บริษัทฯ ถืออยู่) เป็นจำนวน 889,154,755 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 75.02 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ VNT เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของ VNT จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 39 บาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจปรับราคาเสนอซื้อได้หาก (1) VNT มีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น (2) VNT มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้อันเป็นผลให้จานวนหุ้นเพิ่มขึ้นหรือลดลง หรือ (3) VNT มีการให้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนหรือใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นตามส่วนจานวนหุ้นที่ถืออยู่เดิม
ขณะที่ AGC Inc. ได้แสดงเจตนาที่จะไม่ขายหุ้นสามัญของ VNT ที่ AGC Inc. ถืออยู่โดยตรงทั้งหมด จำนวน 696,663,509 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 58.78 ของหุ้นที่ออกและชาระแล้วทั้งหมดของ VNT ในการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ทั้งหมดของ VNT โดยบริษัทฯ ดังนั้น จำนวนหุ้นสามัญของ VNT ที่บริษัทฯ จะต้องรับซื้อจากผู้ถือหุ้นอื่นของ VNT จะมีจำนวนทั้งหมด 192,491,246 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 16.24 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ VNT
บริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้บริษัท เดอะ ควอนท์ กรุ๊ป จำกัด ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาการเงินของบริษัทฯ ในการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ทั้งหมดของ VNT และการประเมินมูลค่าหุ้นสามัญตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในประกาศที่ ทจ.12/2554
นอกจากนี้ หาก VNT สามารถดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สำเร็จ บริษัทฯ และ AGC Inc. มีแผนที่จะสนับสนุนการควบบริษัทระหว่าง VNT กับบริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จากัด (AGC-TH) (ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ AGC Inc. ถือหุ้นทั้งหมด) เกิดเป็นบริษัทใหม่ ตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
โดยก่อนการดำเนินการควบบริษัทดังกล่าวแล้วเสร็จ AGC-TH จะมีการปรับโครงสร้างโดยจะรวมธุรกิจของ AGC Inc.ในประเทศเวียดนามมาอยู่ภายใต้ AGC-TH โดย AGC-TH จะรับโอนเงินลงทุนจำนวนร้อยละ 78.112 ใน AGC Chemicals Vietnam Co.,Ltd. มาจาก AGC Inc.
ทั้งนี้ การควบบริษัทระหว่าง VNT และ AGC-TH จะมีการดำเนินการภายหลังจากที่ VNT สามารถทำการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สำเร็จเท่านั้น และยังขึ้นอยู่กับความสำเร็จของเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่จะมีการดำเนินการควบบริษัทดังกล่าว VNT และ AGC-TH จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนการควบบริษัทตามหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.บริษัทมหาชน และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ต่อไป โดยต้องได้รับอนุมัติการควบบริษัทจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัทและต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัทตามที่กฎหมายกาหนด
ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนการควบบริษัทนั้น หากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ VNT มีมติอนุมัติการควบบริษัท แต่มีผู้ถือหุ้นของ VNT ลงคะแนนเสียงคัดค้านการควบบริษัทในที่ประชุมผู้ถือหุ้นและไม่ประสงค์ที่จะถือหุ้นใน VNT ต่อไป VNT ต้องจัดให้มีผู้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านตามหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.บริษัทมหาชน ซึ่งในกรณีนี้บริษัทฯ จะทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อหุ้น VNT จากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน โดย บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านดังกล่าวในราคาที่ไม่สูงกว่าราคาเสนอซื้อสำหรับการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ทั้งหมดของ VNT
นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการดำเนินการควบบริษัทระหว่าง VNT กับ AGC-TH และเกิดเป็นบริษัทใหม่ได้สำเร็จ บริษัทฯ อาจพิจารณาซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัทใหม่ตามจำนวนและราคาของหุ้นเพิ่มทุนที่บริษัทฯ จะได้พิจารณาต่อไป โดยในกรณีดังกล่าวบริษัทใหม่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.บริษัทมหาชนและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในการออกหุ้นเพิ่มทุน รวมถึงต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่ต่อไป
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC กล่าวว่า การลงทุนในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการเติบโต พร้อมขยายฐาน สร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจปลายน้ำของ GC และพร้อมต่อยอดไปสู่ธุรกิจในส่วนของผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์คลอร์-อัลคาไล หรือโซดาไฟ (Chlor-Alkali) และธุรกิจ PVC ซึ่งมีอัตราการเติบโตในระดับที่สูง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าในธุรกิจสายโอเลฟินส์ให้แก่ GC