xs
xsm
sm
md
lg

“BEAUTY” จับมือพันธมิตร “DOD” เซ็น MOU ลุยธุรกิจเวชสำอางจาก "กัญชง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“BEAUTY” จับมือพันธมิตร “DOD” เซ็น MOU ผนึกกำลังปั้นผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชง บำรุงผิวหน้า และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เตรียมออก 4 ผลิตภัณฑ์ในครึ่งปีหลัง 2564 ผ่านช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ หนุนยอดขาย

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและบำรุงผิวด้วยแนวคิด Live a beautiful life ภายใต้แบรนด์ GINO McCRAY, SCENTIO, MADE IN NATURE เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ และ บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค ได้มีการบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จ (Finished Product) ตลอดจนดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชง เพื่อให้บริษัทบิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) นำเอาผลิตภัณฑ์สำเร็จ (Finished Product) ออกจำหน่ายสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ภายในช่วงครึ่งปีหลัง 2564

ในเบื้องต้น BEAUTY และ DOD มีแผนจะพัฒนา 4 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดจากกัญชง คือ 1.Whitening Gel Cream : ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเพื่อความขาวกระจ่างใส 2.Dietary Supplement for Sleep Well Plus Omega : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยในการนอนหลับและคลายเครียด 3.Organic Tea : ผลิตภัณฑ์ชากัญชงช่วยในการผ่อนคลายและลดความเครียดวิตกกังวล 4.Organic Tea Plus Detox ผลิตภัณฑ์ชาชงช่วยดีทอกซ์ของเสียที่ตกค้างในระบบดูดซึมสารอาหาร

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นการต่อยอดธุรกิจของ 2 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้การเป็น Strategic Partner ที่จะร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมของกัญชง ขานรับการส่งเสริมกัญชงซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยนำจุดแข็งความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 บริษัท ช่วยผลักดันให้มูลค่าการตลาดทั้งในส่วนของผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้บริโภคเติบโตไปพร้อมๆ กัน ซึ่ง BEAUTY เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและบำรุงผิว มีศักยภาพความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายทั้งช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ DOD มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาวิจัยคิดค้นสูตรนวัตกรรมและการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสกินแคร์คอสเมติกส์ รวมถึงยังมีบริษัท สยาม เฮอเบล เทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ DOD มาเสริมศักยภาพการผลิตธุรกิจกัญชง

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปีนี้ BEAUTY ปรับกลยุทธ์ตลาด มุ่งเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีการขยายตัวสูง และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะร้านสาขา โดยมีแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชงอีกหลายรายการเพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า Fast Moving Consumer Goods (FMCG) รวมทั้งวางแผนกระจายสินค้ากลุ่มนี้ทั่วประเทศโดยมีแผนแต่งตั้ง Distributor รายใหญ่ 8 รายเพื่อบริหารการกระจายสินค้าและทำตลาดทั่วประเทศ คาดว่าจะแต่งตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/64”

ด้านนายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้นอกจะเป็นการต่อยอดธุรกิจภายใต้การเป็น Strategic Partner ร่วมกันแล้ว ยังถือเป็นการสร้างมิติใหม่ระหว่างผู้นำของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระหว่าง DOD ซึ่งเป็นผู้นำด้านความเชี่ยวชาญในการพัฒนาวิจัยคิดค้นสูตรนวัตกรรมและการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอางและสกินแคร์ รวมถึงยังมีบริษัท สยาม เฮอเบล เทค จำกัด (บริษัทย่อยของ DOD ) มาเสริมศักยภาพไลน์ผลิตธุรกิจกัญชง ที่ช่วยต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า-จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ และการสกัดสู่กระบวนการผลิตในรูปแบบผลิตภัณฑ์สำเร็จ (Finished Product) ที่มีสารสกัดจากกัญชงครบวงจรระดับต้นๆ ของประเทศ

“สำหรับเมล็ดพันธุ์ บริษัท สยาม เฮอเบล เทค นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งหมด 10 สายพันธุ์ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะนำเข้ามาได้ช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมยื่นขอใบอนุญาตจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ รวมถึงเตรียมยื่นคำขอรับใบอนุญาตตั้งโรงงานสกัดสาร CBD ในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชง ซึ่งหากบริษัทได้รับใบอนุญาตครบตามที่ยื่นขอจะยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำระดับต้นๆ ของประเทศของ DOD ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอางและสกินแคร์จากสารสกัดกัญชง”

ขณะที่พันธมิตรทางธุรกิจ อย่าง บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ ถือเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว ภายใต้แนวคิด Live a beautiful life ซึ่งเป็นเจ้าตลาดในธุรกิจค้าปลีกอันดับต้นๆ ของประเทศอยู่แล้ว ดังนั้นด้วยจุดเด่นความแข็งแกร่งของทั้ง 2 บริษัทจะช่วยผลักดันให้มูลค่าการตลาดทั้งในส่วนของ ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้บริโภคเติบโตไปพร้อมๆ กัน

อย่างไรก็ตาม การเซ็น MOU ในครั้งนี้ DOD จะเป็นผู้คิดค้นวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์รูปแบบผลิตภัณฑ์สำเร็จ (Finished Product) ที่ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดจากกัญชง (หลังจากได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการอาหารและยา) ให้แก่ บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ เพื่อนำไปสู่การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สำเร็จออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศให้แก่ลูกค้า ดังนั้น เชื่อว่าความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัทมหาชนในครั้งนี้ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ DOD และ BEAUTY ในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ


กำลังโหลดความคิดเห็น