SONIC คาดปิดดีล M&A ในฮ่องกง-สิงคโปร์ได้ปีนี้ หนุนขยายฐานโลจิสติกส์ ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทยังมั่นใจว่าธุรกิจโลจิสติกส์ยังมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากปี 2563
นายสันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) เปิดเผยว่า บริษัทมีความสนใจขยายฐานธุรกิจไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและมองหาโอกาสที่จะซื้อกิจการต่างประเทศในลักษณะ M&A บริษัทในเกาะฮ่องกงและในประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการค้าและขนส่ง รวมทั้งมีอัตราการเติบโตสูง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปดีลซื้อกิจการได้ภายในปีนี้ จากเดิมที่บริษัทคาดการณ์ว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปีที่ผ่านมา แต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้แผนการซื้อกิจการล่าช้าออกไป
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทยังมั่นใจว่าธุรกิจโลจิสติกส์ยังมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากปี 2563 เนื่องจากขณะนี้ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยเริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าธุรกิจโลจิสติกส์จะมีปัญหาได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ จนส่งผลให้ราคาตู้คอนเทนเนอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ทางบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯ มีความร่วมมือทางธุรกิจที่ดีกับสายการเดินเรือต่างประเทศมายาวนาน ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการขาดตู้คอนเทนเนอร์สามารถรองรับให้บริการลูกค้าประจำได้ในทุกอุตสาหกรรม และคาดว่าปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
"บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดตู้คอนเทนเนอร์ สะท้อนได้จากรายได้รวมจากการให้บริการในปี 2563 มีรายได้กว่า 1,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2562 โดยรายได้หลักมาจากการให้บริการขนส่งทางเรือกว่า 892 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า 147 ล้านบาท หรือเกือบ 20%" นายสันติสุข กล่าว
ในช่วง 2 ปีนี้ (ปี 64-65) บริษัทได้เตรียมวงเงินประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อรถหัวลากให้แก่พันธมิตร ภายใต้โมเดลโลจิสซิ่ง (โลจิสติกส์+ลีสซิ่ง) โดยปีนี้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 200 ล้านบาท ปี 2565 จะปล่อยสินเชื่อเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท ซึ่งโมเดลดังกล่าวนอกจากจะทำให้บริษัทมีรายได้จากอัตราดอกเบี้ยการปล่อยสินเชื่อแล้ว ยังจะช่วยต่อยอดการดำเนินงานหลักของกลุ่ม SONIC ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะลูกค้าที่มาขอสินเชื่อรถหัวลากจะถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งบริษัทจะมีงานขนส่งสินค้ารองรับให้แก่ลูกค้าที่มาขอสินเชื่อควบคู่ไปด้วย