ทีมวิจัย บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET ให้ความเห็นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะค้นหาบริษัทที่น่าสนใจจากการดูข้อมูลทางการเงินเป็นหลัก ซึ่งที่จริงแล้วข้อมูลดังกล่าวอาจจะสะท้อนความสามารถในการดำเนินการในอนาคตเพียงแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่หากเราพิจารณาสิ่งที่นอกเหนือจากงบการเงิน อาจจะทำให้เห็นแง่มุมที่น่าสนใจของบริษัทที่นำไปสู่การดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน เช่น การพัฒนาด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล
ESG คืออะไร? : ESG ย่อมาจาก Environment Social Governance ซึ่งก็คือแนวคิดการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน โดยประกอบไปด้วย E : Environment การจัดการและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม คือ การเน้นใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท S : Social การจัดการด้านสังคม คือ การบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ดูแลความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของพนักงาน รวมถึงการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนรอบด้าน G : Governance การจัดการด้านธรรมาภิบาล คือ การมีนโยบายกำกับดูแลกิจการที่ดี ต่อต้านการทุจริต ดำเนินงานอย่างโปร่งใส และดูแลผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เราสามารถคัดกรองหุ้นที่มี ESG น่าสนใจจากอะไรบ้าง เบื้องต้นของการคัดเลือกบริษัทที่มี ESG เด่นนั้น เราคัดจากบริษัทที่ได้รับ CG Score จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ในระดับ 4-5 ดาว และพิจารณาเพิ่มเติมในเนื้อหาของบริษัทในแต่ละด้านทั้งสิ่งแวดล้อม (E) สังคม (S) และธรรมาภิบาล (G) ผสานกับดูเพิ่มเติมในแง่มุมมของการทำกำไรของบริษัท และความสามารถในการจ่ายปันผลในช่วง ปี 2564-65 เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่เลือกเป็นบริษัทที่มี ESG ดี และมีแนวโน้มการเติบโตเด่น ผสานอัตราการจ่ายปันผลที่น่าสนใจ
แนะทยอยสะสม SCB, M, SCC
SCB : (ราคาเป้าหมาย 115 บาท) ตัวแทนด้านสิ่งแวดล้อม (E) ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้สินเชื่อสำหรับอุตสาหกรรมสีเขียว (เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล โครงการโรงไฟฟ้าขยะเป็นพลังงานและโครงการระบบขนส่งสาธารณะ) คิดเป็น 10% ของสินเชื่อทั้งหมด ณ สิ้นปี 2562 นอกจากนี้ยังให้เงินสนับสนุนโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนามในปี 2562 คาดว่าโครงการนี้จะมีกำลังการผลิตที่ 50 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 20,000 ตัน และจัดหาเงินทุนให้แก่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ คาดว่าโครงการนี้จะกำจัดขยะได้ 90,000 ตันและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 84,000 ตัน
M : (ราคาเป้าหมาย 66 บาท) ตัวแทนด้านสังคม (S) ให้ความสำคัญของพนักงานทุกคนเท่าเทียมกัน และเปิดโอกาสการร่วมงานโดยไม่นำข้อจำกัดของเชื้อชาติ สัญชาติ เพศ สีผิว ศาสนาเข้ามาตัดสิน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ทุพพลภาพได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรในขอบเขตความสามารถที่ปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤต Covid-19 บริษัท M ไม่มีนโยบายปรับลดพนักงานประจำ โดยใช้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้ไปทำงานด้านอื่นที่มีประสิทธิผลที่มากกว่า อีกทั้งเพื่อเป็นการช่วยสังคมในการแบ่งเบาภาระปัญหาคนตกงาน
SCC : (ราคาเป้าหมาย 430 บาท) ตัวแทนด้านธรรมาภิบาล (G) บริษัทให้ความสำคัญกับประเด็นด้านธรรมาภิบาล โดยมีนโยบายกำหนดมาตรการควบคุมภายในที่ดีทั้งด้านการควบคุมป้องกันการทุจริต คอร์รัปชัน การปฏิบัติที่ละเมิดต่อกฎระเบียบด้านจริยธรรม สิทธิมนุษยชน รวมถึงการต่อต้านการผูกขาด โดยจนถึงปัจจุบันมีการสอบสวน 29 กรณีที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมายและการละเมิดกฎระเบียบด้านจรรยาบรรณ ค่านิยมหลัก 4 ประการของ SCG และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน สิทธิมนุษยชนและการต่อต้านการผูกขาด ความเสียหายโดยรวมอยู่ที่ 0.67 ล้านบาท และมีการปลดพนักงาน 17 คน