ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 มี.ค.2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล แอมะซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 31,270.09 จุด ลดลง 121.43 จุด หรือ -0.39% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,819.72 จุด ลดลง 50.57 จุด หรือ -1.31% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,997.75 จุด ลดลง 361.04 จุด หรือ -2.70%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นอีกครั้งได้ส่งผลกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนกังวลว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นในปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 413.42 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด หรือ +0.05%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,830.06 จุด เพิ่มขึ้น 20.33 จุด หรือ +0.35%, ดัชนี DAX ปิดที่ 14,080.03 จุด เพิ่มขึ้น 40.23 จุด หรือ +0.29% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,675.47 จุด เพิ่มขึ้น 61.72 จุด หรือ +0.93%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) ขานรับนายริชิ ซูแนค รมว.คลังอังกฤษเปิดเผยงบประมาณประจำปีในวันพุธ ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดในกลางปี 2565 เร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ 6 เดือน
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,675.47 จุด เพิ่มขึ้น 61.72 จุด หรือ +0.93%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะไม่มีมติเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมวันนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานสต๊อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 61.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ค. พุ่งขึ้น 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 64.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือนเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 17.8 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 1,715.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. 2563
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 49.2 เซนต์ หรือ 1.83% ปิดที่ 26.387 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 32.6 ดอลลาร์ หรือ 2.68% ปิดที่ 1,181.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 14.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,354.40 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% แตะที่ 90.9464 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.96 เยน จากระดับ 106.73 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9196 ฟรังก์ จากระดับ 0.9140 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2636 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2614 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2065 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2085 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3955 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3965 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7792 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7829 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 31,270.09 จุด ลดลง 121.43 จุด, -0.39%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,819.72 จุด ลดลง 50.57 จุด, -1.31%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 12,997.75 จุด ลดลง 361.04 จุด, -2.70%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,080.03 จุด เพิ่มขึ้น 40.23 จุด, +0.29%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,675.47 จุด เพิ่มขึ้น 61.72 จุด, +0.93%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,830.06 จุด เพิ่มขึ้น 20.33 จุด, +0.35%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 51,444.65 จุด เพิ่มขึ้น 1,147.76 จุด, +2.28%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,000.37 จุด เพิ่มขึ้น 26.50 จุด, +0.89%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,588.45 จุด เพิ่มขึ้น 18.58 จุด, +1.18%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,376.76 จุด เพิ่มขึ้น 17.55 จุด, +0.28%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 29,880.42 จุด เพิ่มขึ้น 784.56 จุด, +2.70%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,576.90 จุด เพิ่มขึ้น 68.31 จุด, +1.95%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,082.99 จุด เพิ่มขึ้น 39.12 จุด, +1.29%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,762.30 จุด ลดลง 27.30 จุด, -0.40%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,009.90 จุด ลดลง 32.80 จุด, -0.47%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 29,559.10 จุด เพิ่มขึ้น 150.93 จุด, +0.51%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 16,211.73 จุด เพิ่มขึ้น 264.85 จุด, +1.66%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,942.76 จุด เพิ่มขึ้น 23.22 จุด, +0.34%