ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ก.พ.2564
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอีกกว่า 400 จุดเมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี แต่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,932.37 จุด ลดลง 469.64 จุด หรือ -1.50%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,811.15 จุด ลดลง 18.19 จุด หรือ -0.48% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,192.34 จุด เพิ่มขึ้น 72.91 จุด หรือ +0.56%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นอย่างมาก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 404.99 จุด ลดลง 6.74 จุด หรือ -1.64%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,703.22 จุด ลดลง 80.67 จุด หรือ -1.39%, ดัชนี DAX ปิดที่ 13,786.29 จุด ลดลง 93.04 จุด หรือ -0.67% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,483.43 จุด ลดลง 168.53 จุด หรือ -2.53%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมา ขณะที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทำให้เกิดความวิตกว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นตามมา
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,483.43 จุด ลดลง 168.53 จุด หรือ -2.53%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนยังขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาจากความวิตกเกี่ยวกับการประชุมในสัปดาห์หน้าของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 61.50 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปิดตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 3.8% และปิดตลาดทั้งเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นเกือบ 18%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน เม.ย.ซึ่งครบกำหนดส่งมอบแล้ว ลดลง 75 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 66.13 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปิดตลาดในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้น 5.1% และปิดตลาดในเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้นมากกว่า 18% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ค. ร่วงลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 64.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 46.6 ดอลลาร์ หรือ 2.62% ปิดที่ 1,728.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2563 โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาทองคำลดลงราว 2.7% และในเดือน ก.พ. สัญญาทองคำร่วงลงราว 6.6% ซึ่งเป็นการร่วงลงรายเดือนรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2559
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค. ร่วงลง 1.245 ดอลลาร์ หรือ 4.57% ปิดที่ 26.44 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง 46.2 ดอลลาร์ หรือ 3.75% ปิดที่ 1,185.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. ร่วงลง 101.30 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 2,313.50 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.82% สู่ระดับ 90.8690 เมื่อวันศุกร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.61 เยน จากระดับ 106.20 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9090 ฟรังก์ จากระดับ 0.9046 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2703 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2576 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2078 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2184 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3945 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4036 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7711 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7902 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 30,932.37 จุด ลดลง 469.64 จุด, -1.50%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,811.15 จุด ลดลง 18.19 จุด, -0.48%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,192.34 จุด เพิ่มขึ้น 72.91 จุด, +0.56%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,786.29 จุด ลดลง 93.04 จุด, -0.67%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,483.43 จุด ลดลง 168.53 จุด, -2.53%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,703.22 จุด ลดลง 80.67 จุด, -1.39%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 49,099.99 จุด ลบ 1,939.32 จุด, 3.80%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,949.04 จุด ลดลง 24.50 จุด, -0.82%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,577.75 จุด ลดลง 3.79 จุด, -0.24%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,241.80 จุด ลดลง 47.85 จุด, -0.76%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,980.21 จุด ร่วงลง 1,093.96 จุด, -3.64%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,509.08 จุด ร่วงลง 75.97 จุด, -2.12%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,012.95 จุด ลดลง 86.74 จุด, -2.80%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,673.30 จุด ลดลง 160.70 จุด, -2.35%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,940.60 จุด ลดลง 165.10 จุด, -2.32%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 28,966.01 จุด ดิ่งลง 1,202.26 จุด,-3.99%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 15,953.80 จุด ลดลง 498.38 จุด, -3.03%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,794.86 จุด เพิ่มขึ้น 38.91 จุด, +0.58%