บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ผู้ผลิตน้ำประปาภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศในพื้นที่สมุทรสาคร นครปฐม และปทุมธานี-รังสิต เผยผลประกอบการ ปี 2563 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 6,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 0.7% โดยมีกำไรสุทธิ 2,951.5 ล้านบาท ลดลง 5.6% จากปีก่อน เนื่องจากส่วนแบ่งผลกำไรจากบริษัทร่วมลดลง
ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจทางด้านบริหารจัดการน้ำยังคงเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้จากการดำเนินงานของบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำของภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น รวมทั้งมีการบริหารค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงเพราะบริษัทฯ จ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระและการรีไฟแนนซ์เงินกู้เป็นผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลง
โดยสินทรัพย์รวมของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีจำนวน 22,842.4 ล้านบาท หนี้สินรวม 9,142.8 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 13,699.6 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สิน : ทุนเพียง 0.67 เท่า
จากผลประกอบการของปี 2563 และฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ในปัจจุบัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 เมษายน 2564 อนุมัติจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 9 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2564 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ทำการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2563 รวมเงินปันผลตลอด ปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท
สำหรับปัญหาภัยแล้งในปี 2564 ตามการคาดการณ์ของกรมชลประทานพบว่าจะมีความรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนหลักมีปริมาณน้ำใช้ได้น้อยเป็นผลให้มีปริมาณน้ำที่ใช้สำหรับเพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศมีจำกัด บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้เตรียมพร้อมแผนป้องกันภัยแล้ง โดยการเพิ่มความถี่ในการตรวจวัดคุณภาพน้ำดิบและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งดำเนินการบริหารการสูบน้ำดิบด้วยความรัดกุม เพื่อรักษาคุณภาพน้ำประปาให้มีความสะอาดและปลอดภัยตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) และสามารถจ่ายน้ำประปาได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่องรองรับความต้องการใช้น้ำประปาในพื้นที่ให้บริการ
TTW มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน คำนึงถึงคุณภาพ ความสะอาด รวมไปถึงความเพียงพอต่อเนื่องของการให้บริการ และจะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาเดินหน้าเพื่อยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจทางด้านบริหารจัดการน้ำยังคงเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้จากการดำเนินงานของบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำของภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น รวมทั้งมีการบริหารค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงเพราะบริษัทฯ จ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระและการรีไฟแนนซ์เงินกู้เป็นผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลง
โดยสินทรัพย์รวมของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีจำนวน 22,842.4 ล้านบาท หนี้สินรวม 9,142.8 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 13,699.6 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สิน : ทุนเพียง 0.67 เท่า
จากผลประกอบการของปี 2563 และฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ในปัจจุบัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 เมษายน 2564 อนุมัติจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 9 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2564 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ทำการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2563 รวมเงินปันผลตลอด ปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท
สำหรับปัญหาภัยแล้งในปี 2564 ตามการคาดการณ์ของกรมชลประทานพบว่าจะมีความรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนหลักมีปริมาณน้ำใช้ได้น้อยเป็นผลให้มีปริมาณน้ำที่ใช้สำหรับเพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศมีจำกัด บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้เตรียมพร้อมแผนป้องกันภัยแล้ง โดยการเพิ่มความถี่ในการตรวจวัดคุณภาพน้ำดิบและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งดำเนินการบริหารการสูบน้ำดิบด้วยความรัดกุม เพื่อรักษาคุณภาพน้ำประปาให้มีความสะอาดและปลอดภัยตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) และสามารถจ่ายน้ำประปาได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่องรองรับความต้องการใช้น้ำประปาในพื้นที่ให้บริการ
TTW มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน คำนึงถึงคุณภาพ ความสะอาด รวมไปถึงความเพียงพอต่อเนื่องของการให้บริการ และจะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาเดินหน้าเพื่อยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น