STA เผย มี.ค.นี้ ยื่นขอ อย.ลุยปลูกกัญชง คาดเริ่มปลูก ก.ค. 100-200 ไร่ เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ต.ค.64 ส่วนระยะยาวจ่อตั้งโรงงานสกัดน้ำมัน CBD จากกัญชงในปี 66 ขณะที่รายได้ปีนี้คาดทำนิวไฮแตะแสนล้านบาท ทำยอดขาย 1.2 ล้านตัน พร้อมทุ่มงบลงทุน จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ลุยธุรกิจถุงมือ-ขยายโรงงาน ด้านโบรกฯ มีมุมมองเชิงบวกต่ออุตฯ ส่งออกยางพาราในปี 64 จากความต้องการของลูกค้ากลุ่มรถยนต์ค่อนข้างสดใส แนะนำ T-Buy ราคาเป้าหมายอยู่ในช่วง 35-37 บาท
น.ส.ทิพย์วดี สุดเวหา ผู้จัดการกลุ่มงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า เดือน มี.ค.64 บริษัทเตรียมขออนุญาตปลูกกัญชงและอนุญาตนำเข้าเมล็ดกัญชงจากต่างประเทศ ต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตในช่วง มิ.ย.นี้
"คาดว่าเริ่มปลูกได้จริงตั้งแต่ ก.ค.64 เป็นต้นไป เพราะต้องรอการนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากต่างประเทศก่อน และจากนั้น 4 เดือนจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตในรูปแบบเมล็ดและดอกเพื่อจำหน่าย หรือเริ่มตั้งแต่ ต.ค.64 เป็นต้นไป" น.ส.ทิพย์วดี กล่าว
คาดใช้เงินปลูกกัญชงเบื้องต้น 10 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนในธุรกิจการปลูกกัญชงเบื้องต้นคาดว่าใช้ 10 ล้านบาทสำหรับเมล็ดพันธุ์ และการล้อมรั้ว ไม่นับรวมที่ดินเพราะมีอยู่ก่อนแล้ว โดยใช้พื้นที่ปลูกจำนวน 100-200 ไร่ โซนจังหวัดน่าน สกลนคร และชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่เปล่าของบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 2,000 ไร่ ซึ่งถือเป็นต้นน้ำสำหรับการทำธุรกิจกัญชง นอกเหนือจากการนำไปทำสินค้า อีกทั้งบริษัทยังมีเป้าหมายระยะยาวโดยทำธุรกิจโรงสกัดน้ำมัน CBD จากกัญชงคาดว่าจะเห็นในปี 66
ตั้งเป้าปีนี้รายได้ทำนิวไฮกว่าแสนล้านบาท
ส่วนภาพรวมรายได้ธุรกิจ STA ในปี 64 คาดว่ารายได้จะแตะระดับกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำสถิติจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ปี 63 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 75,478.7 ล้านบาท ด้านปริมาณการขายยางธรรมชาติในปี 64 คาดว่าจะทำได้ 1.2 ล้านตัน จากปี 63 อยู่ที่ 1 ล้านตัน จากความต้องการสินค้ายาง การใช้ยางเพื่ออุตสาหกรรมล้อรถฟื้น และธุรกิจถุงมือยางยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันความต้องการดังกล่าวหนุนให้ราคายางปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วยหนุนรายได้บริษัท โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทยังคงมาจากธุรกิจยางธรรมชาติและถุงมืออย่างละ 50%
สำหรับงบลงทุนในปี 64 คาดว่าจะใช้ประมาณ 12,000 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินธุรกิจถุงมือยาง ขยายโรงงานน้ำยางข้น และใช้บำรุงรักษาอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ โดยจำนวนเงินดังกล่าวมาจากเงินสด เงินกู้ และเงินจากการระดมทุน IPO ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเงินสดรวมประมาณ 26,000 ล้านบาท
โนมูระแนะนำ T-Buy ราคาเป้าหมาย 35-37 บาท
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า สิ่งที่จะขายคือ เมล็ดและดอก-ช่อของกัญชง โดยมีพันธมิตรนำดอกและช่อไปสกัดเป็น CBD oil ที่มีราคา 1 แสนบาท/กิโลกรัม สรุปโปรเจกต์นี้ให้ผลตอบแทน 100 ล้านบาท/100 ไร่/ปี นอกจากนี้ STA มีแผนจะขยายไปถึง 1,000 ไร่
ทั้งนี้ ยังไม่รวมโปรเจกต์กัญชงในประมาณการ จะมีมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมส่งออกยางพาราในปี 64 จากความต้องการของลูกค้ากลุ่มรถยนต์ค่อนข้างสดใส ส่วนหนึ่งหลังสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษี AD rate ต่อธุรกิจยางไทยไม่รุนแรงในระดับต่ำกว่า 100% ด้านแนวโน้มราคายางพาราในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้น โดยจุดสูงสุดคือเดือนเมษายน 64 ทั้งนี้ปัจจุบันราคายางที่ 150-200 เซ็นต์ แนะนำ T-Buy ราคาเป้าหมายอยู่ในช่วง 35-37 บาท
