“ศิครินทร์” ประกาศผลประกอบการปี 2563 รายได้ 3,907 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉียด 5% กำไรสุทธิ 350 ล้านบาท พุ่งขึ้น 44% จากปีก่อน ป็นการเติบโตต่อเนื่องจากการยกระดับมาตรฐานทางการแพทย์เปิดตัว “สถาบันกุมารเวช ศิครินทร์” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแม่และเด็ก และ “ศูนย์ทันตกรรม ศิครินทร์” ในรูปแบบใหม่ รวมถึงการเป็นผู้นำด้านการดูแลคนไข้ประกันสังคมอันดับต้นๆ ของประเทศ
นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศ เปิดเผยผลประกอบการปี 2563 ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 3,841 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 5% ในขณะที่กำไรสุทธิ 350 ล้านบาท พุ่งขึ้น 44% จากปีก่อน นับเป็นการทำรายได้และกำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สาเหตุการเพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไรสุทธิในปี 2563 บริษัทได้ตอกย้ำความเชื่อมั่นในแบรนด์ “Sikarin” ผ่านการเปิดตัว “ศูนย์ทันตกรรม ศิครินทร์” ภายใต้วิวัฒนาการทางทันตกรรมในแต่ละสาขา การดูแลสุขภาพช่องปากครอบคลุมทั้งการป้องกันและการรักษาที่ทันสมัย รวมถึงเครื่องมืออุปกรณ์ปลอดเชื้อ ซึ่งมุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ
รวมทั้งการเดินหน้ายกระดับการเป็นผู้นำด้านแม่และเด็กผ่าน “สถาบันกุมารเวช ศิครินทร์” ที่ให้บริการการแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับเด็กครบวงจร เช่น การดูแลระบบพัฒนาการเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 15 ปี ส่งผลให้มีคนไข้เข้ารับบริการเพิ่มขึ้น และด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการคนไข้ประกันสังคม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัทได้ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มนี้ยังคงสร้างรายได้และกำไรให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของลูกค้า ส่งผลให้หลังวิกฤตโควิด-19 คนไข้ประเภทต้องรับการผ่าตัดหันมาใช้บริการกับศิครินทร์มากขึ้น จากมาตรฐานคุณภาพโรงพยาบาลภายใต้แคมเปญ “เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์” หรือ “#Trust SIKARIN” ทำให้มีรายได้จากกลุ่มคนไข้ใน (IPD) เพิ่มขึ้น มีกลุ่มลูกค้าที่เคยใช้บริการในโรงพยาบาลระดับไฮเอนด์หันมาใช้บริการกับศิครินทร์มากขึ้น สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2564 เชื่อมั่นยังคงเติบโตเนื่องทั้งโรงพยาบาลในกรุงเทพ สมุทรปราการ และสงขลา
“อัตราส่วนทางการเงินเราทำได้ดีมีประสิทธิภาพเกือบทุกรายการ เรามั่นใจว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2564 จะเติบโตต่อเนื่องจากการเปิดตัวสถาบันทางการแพทย์ด้านต่างๆ การขยายอาคารใหม่เพื่อรองรับคนไข้ที่เพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น รวมถึงการพัฒนาแบรนด์ “SIKARIN ” จากการเป็น Healthcare Provider เข้าสู่ Healthcare Solution ซึ่งทำให้สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้มากขึ้น ผ่าน Platform ในรูปแบบต่างๆ” นายสุริยันต์ กล่าว
