เจมาร์ท แย้มแผนโตรับเปิดศักราชปีฉลู ส่งสัญญาณธุรกิจการเงินภายใต้การบริหารทั้ง เจเอ็มที และซิงเกอร์โตเด่น ล่าสุด แปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ JMT-W2 เพิ่มอีก 250 ล้านบาท รวมทั้ง แปลงสภาพ SINGER-W1 ที่ถือไว้ทั้งหมด มูลค่า 189 ล้านบาท เพื่อสร้างฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งในการขยายพอร์ต ดันกำไรปี 64 ทะยานต่อ
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า ธุรกิจด้านการเงินของกลุ่มบริษัทยังคงความแข็งแกร่งต่อเนื่องในปี 2564 ล่าสุด ได้ประกาศแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) ครั้งที่ 2 (JMT-W2) เพิ่มเติมอีก 250 ล้านบาท เพื่อสร้างฐานทุนให้แก่ JMT ขยายโอกาสในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ รับภาพรวมหนี้ในระบบยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกัน JMT ได้รับความไว้วางใจ และเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินทุกแห่งในการซื้อหนี้ พร้อมด้วยการบริหารและติดตามที่ดี มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว
พร้อมกันนี้ เจมาร์ท ได้แปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (SINGER) ครั้งที่ 1 (SINGER-W1) ที่ถือไว้ทั้งหมด มูลค่า 189 ล้านบาท เพื่อสร้างฐานเงินทุนให้แก่ SINGER ในการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ภายใต้ชื่อ "รถทำเงิน" ซึ่งยังคงเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ด้วยการดำเนินการภายใต้บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (SGC) ชูจุดแข็ง ตัวแทนขายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ และการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการอนุมัติ และติดตามสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ สะท้อนจากตัวเลข NPL อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2563 พอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของ SINGER อยู่ที่มากกว่า 3,400 ล้านบาท เติบโตจากปี 2562 ที่ผ่านมากว่า 100%
อย่างไรก็ดี แผนการแปลงสภาพในครั้งนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อ JMT และ SINGER เชื่อจะสนับสนุนความสามารถในการทำกำไรในปี 2564 ให้โดดเด่นขึ้น ส่งผลบวกมายังเจมาร์ทในฐานะบริษัทโฮลดิ้งที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Investment Holding Company
และแม้ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ กลุ่มเจมาร์ทยังคงเชื่อมั่นในการเติบโต ด้วย Ecosystem ของพลังในเครือที่แข็งแกร่ง สะท้อนจากการบริหารจัดการภายใต้วิกฤตในปี 2563 ที่ผ่านมา คาดผลงานจะทำ All time high และมั่นใจว่าจะทำได้ดีต่อเนื่องในปีนี้
