เอเซียพลัส ประเมินหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในปี 63 พร้อมจับตาจุดเปลี่ยน หลังไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในปีนี้ ช่วยหนุนการฟื้นตัวของธุรกิจ ซึ่งได้ประโยชน์จากการที่มีผู้เข้ามารับบริการจำนวนมาก แนะนำ BDMS PR9 เป็น Top Pick
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ถึงความคืบหน้าล่าสุดกรณีโรงพยาบาลเอกชนที่จะนำวัคซีนโควิด-19 เข้ามาให้บริการ โดยแนวทางปัจจุบันคือจะต้องสั่งผ่านตัวแทนจำหน่ายที่แต่งตั้งในประเทศไทยของผู้ผลิตวัคซีน ซึ่งปัจจุบันยังต้องรอให้ตัวแทนจำหน่ายขึ้นทะเบียนขออนุญาตกับ อย.ก่อน โดยคาดจะกระบวนการทั้งหมดต้องใช้เวลาราว 1-3 เดือน
มองกลุ่ม BDMW-BCH ได้ประโยชน์กรณีวัคซีนฉีดได้
ดังนั้น ประเมินเป็นบวกต่อกลุ่มการแพทย์ แม้ในทางพื้นฐานเชื่อว่าประโยชน์ของการให้บริการฉีดวัคซีนจะไม่สร้าง Upside ที่มีนัยต่อประมาณการ อย่างไรก็ตาม คาดประโยชน์หลักๆ อยู่ในกลุ่ม รพ.เครือข่าย BDMS และ BCH ที่มีจุดให้บริการหลายแห่ง และ รพ.ที่จับตลาดกลาง-บน อย่าง BH และ PR9 ที่น่าจะมีความต้องการรับบริการเข้ามา รวมถึงจะได้ประโยชน์ในแง่การกลับมาให้บริการรักษากลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดวัคซีนได้ และคาดหนุนการฟื้นตัวที่คาดหวังได้จากกลุ่มผู้ป่วยไทย มีโอกาสสูงกว่าที่ประเมินในปี 64 ที่กำหนดให้การฟื้นตัวมีนัย หลังเริ่มมีการกระจายวัคซีนครอบคลุมมากขึ้นในช่วง 2H64
ขณะที่ผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อการเดินทางเข้ามารักษาของผู้ป่วยไทย ปัจจุบันยังประเมินผลกระทบจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดือน เม.ย.63 ต่อทั้งกลุ่มผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) สะท้อนจากปัจจุบันที่การรักษา ผ่าตัดที่ไม่จัดอยู่ในกรณีฉุกเฉินยังสามารถทำได้อยู่ เทียบกับช่วงเดือน เม.ย.63 ที่ให้พิจารณางดการผ่าตัดส่วนใหญ่
เชียร์ซื้อ BDMS-PR9-BCH
ดัชนีกลุ่มการแพทย์ปี 2563 ปรับตัวลดลงถึง 17.3% เทียบกับตลาดที่ลดลง 10.4% เชื่อว่าน่าจะสะท้อนปัจจัยกดดันไปมากแล้ว โดยจากทิศทางระยะถัดไปที่น่าจะคาดหวังการฟื้นตัวได้มากขึ้น จากทั้งการเริ่มจัดสรรวัคซีนเอกชนคาดจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญต่อการฟื้นตัวของธุรกิจนับจากนี้ ยังให้ลงทุนเท่าตลาด เลือก BDMS (FV@B24) และ PR9 (FV@B11) เป็น Top picks กลุ่ม และยังแนะนำซื้อ BCH (FV@B19) จากการปรับตัวได้ดี หนุนได้อานิสงส์ระยะสั้นจากการรับตรวจโควิด-19 ระลอกใหม่ และโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการบริการวัคซีนโควิด-19 ในระยะถัดไป