ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) เทรดราคาพาร์ใหม่ 50 สตางค์ อีกทั้งปรับนโยบายจ่ายปันผลใหม่เป็นไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรทุกไตรมาส โบรกฯ แนะให้ซื้อเพราะกำไรพุ่งจากราคาขายที่ปรับขึ้น
หุ้นของบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT เช้าวันนี้เปิดที่ 38.25 บาท จากวันก่อนหน้าปิดที่ 37.63 บาท ซึ่งวันนี้เริ่มเทรดราคาพาร์ใหม่คือ 0.50 บาท พร้อมกับปรับนโยบายจ่ายปันผลใหม่เป็นไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรทุกไตรมาสในปี 2564
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ "ซื้อ" หุ้น STGT ให้ราคาเป้าหมาย 48 บาท (ก่อนแตกพาร์ 96 บาท) โดยเริ่มเทรดพาร์ใหม่ 0.50 บาท วันนี้และปรับนโยบายจ่ายปันผลใหม่เป็นไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรทุกไตรมาสในปี 2564 ด้านกำไรไตรมาส 4/63 ยังโตแรงจากราคาขายที่ปรับขึ้น คาดกำไรปี 2563-2564 ที่ 1,158% เพิ่มจากปีก่อนและ 71% เทียบปีก่อนตามลำดับ
บล.ดีบีเอสฯ แนะนำ "ซื้อ" หุ้น STGT เพราะวันนี้มีการเริ่มแตกพาร์ ทำให้ราคาหุ้นปรับลงมากึ่งหนึ่งเป็น 37.63 บาท สภาพคล่องในการซื้อขายดีขึ้น แต่ความั่งคั่งผู้ถือหุ้นเท่าเดิม จากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวแม้จะมีการเริ่มใช้วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และมีอุปทานในอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยลบ แต่จุดแข็งคือ บริษัทมียอดคำสั่งซื้อ (Backlog) ยาวนานไปถึงกลางปี 66 แล้ว ทำให้มีความมั่นคงด้านรายได้และกำไรในอนาคต
ในทางกลับกันราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของถุงมือยางกับทยอยปรับเพิ่มขึ้น ตามสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรง และจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอย่างน่ากังวลคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาพื้นฐานใหม่ที่ 50.50 บาท ซึ่งปรับลงตามการแตกพาร์ จากเดิมที่ 101.00 บาทก่อนแตกพาร์ และประเมินด้วยวิธี DCF สิ่งที่น่าสนใจคือ อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรแบบ CAGR ระหว่างปี 62-66 สูงมากเป็น 92% และฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (Net Cash Position)
หุ้นของบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT เช้าวันนี้เปิดที่ 38.25 บาท จากวันก่อนหน้าปิดที่ 37.63 บาท ซึ่งวันนี้เริ่มเทรดราคาพาร์ใหม่คือ 0.50 บาท พร้อมกับปรับนโยบายจ่ายปันผลใหม่เป็นไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรทุกไตรมาสในปี 2564
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ "ซื้อ" หุ้น STGT ให้ราคาเป้าหมาย 48 บาท (ก่อนแตกพาร์ 96 บาท) โดยเริ่มเทรดพาร์ใหม่ 0.50 บาท วันนี้และปรับนโยบายจ่ายปันผลใหม่เป็นไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรทุกไตรมาสในปี 2564 ด้านกำไรไตรมาส 4/63 ยังโตแรงจากราคาขายที่ปรับขึ้น คาดกำไรปี 2563-2564 ที่ 1,158% เพิ่มจากปีก่อนและ 71% เทียบปีก่อนตามลำดับ
บล.ดีบีเอสฯ แนะนำ "ซื้อ" หุ้น STGT เพราะวันนี้มีการเริ่มแตกพาร์ ทำให้ราคาหุ้นปรับลงมากึ่งหนึ่งเป็น 37.63 บาท สภาพคล่องในการซื้อขายดีขึ้น แต่ความั่งคั่งผู้ถือหุ้นเท่าเดิม จากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวแม้จะมีการเริ่มใช้วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และมีอุปทานในอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยลบ แต่จุดแข็งคือ บริษัทมียอดคำสั่งซื้อ (Backlog) ยาวนานไปถึงกลางปี 66 แล้ว ทำให้มีความมั่นคงด้านรายได้และกำไรในอนาคต
ในทางกลับกันราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของถุงมือยางกับทยอยปรับเพิ่มขึ้น ตามสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรง และจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอย่างน่ากังวลคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาพื้นฐานใหม่ที่ 50.50 บาท ซึ่งปรับลงตามการแตกพาร์ จากเดิมที่ 101.00 บาทก่อนแตกพาร์ และประเมินด้วยวิธี DCF สิ่งที่น่าสนใจคือ อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรแบบ CAGR ระหว่างปี 62-66 สูงมากเป็น 92% และฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (Net Cash Position)
