ตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันสิ้นปี 2563 ปิดตลาด -0.86% หรือปรับตัวร่วงกว่า 12.60 จุด เหตุนักลงทุนและประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศกังวลการกลับมาระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โบรกฯ ชี้แรงขายทำกำไรเพราะลดความเสี่ยง และถือเงินสดสำรอง
ตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายสิ้นปีวันสุดท้าย 30 ธันวาคม 2563 ปรับตัวลดลง -12.60 จุด หรือ -0.86% ลงมาอยู่ที่ระดับ 1,449.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 87,544.52 ล้านบาท โดยตลอดทั้งวันของการซื้อขาย ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,479.04 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,445.36 จุด
ขณะที่ในส่วนของหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 428 หลักทรัพย์ ลดลง 1,157 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 322 หลักทรัพย์
ด้านหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ปิดที่ 486.00 บาท เพิ่มขึ้น 48.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 11,205.69 ล้านบาท
2.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ปิดที่ 73.75 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,367.54 ล้านบาท
3.บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ปิดที่ 76.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,036.62 ล้านบาท
4.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ปิดที่ 42.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,872.89 ล้านบาท
5.บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS ปิดที่ 203.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,768.72 ล้านบาท
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวลงจากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นการเทรดวันสุดท้ายก่อนหยุดระยะยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้มีแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงและถือเงินสดไว้ก่อน เนื่องจากยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ และมาตรการเพิ่มเติมของภาครัฐ ซึ่งตลาดไม่ชอบการล็อกดาวน์ แต่วันนี้จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลบ้าง
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ วอลุ่มเทรดบางตามวันหยุดเทศกาล และตลาดในยุโรปก็เริ่มอ่อนตัวลงหลังจากที่ขึ้นตอบรับเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไปแล้ว ซึ่งตลาดไม่มีปัจจัยชี้นำในช่วงนี้ คงจะต้องรอดูสถานการณ์ต่างๆ ในปี 64 โดยหลายประเทศต่างก็มีการล็อกดาวน์หลังจากมีเรื่องการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ทำให้ประเด็นการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเช่นกัน รวมถึงติดตามพัฒนาการของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ด้วย
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์แรกของปี 64 น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปได้ ซึ่งในปีหน้าจะไม่มีแรงขายจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เป็นจำนวนมากแล้ว แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของทั่วโลก และติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการของทั่วโลก พร้อมให้แนวรับ 1,440 จุด ส่วนแนวต้าน 1,485 จุด