ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบ "น.ส.จรีภรณ์ เอี้ยวสุวรรณ" จากการเป็นผู้แนะนำการลงทุน ขณะกระทำความผิดสังกัดบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ฐานกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน โดยนำเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนและหุ้นกู้รวม 1 ล้านบาท ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว และห้ามเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนเป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการตรวจสอบจากบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2561 น.ส.จรีภรณ์ เอี้ยวสุวรรณ ซึ่งเป็นผู้แนะนำการลงทุน หลอกให้ลูกค้านำเงินรวม 1 ล้านบาทให้แก่ตนเอง โดยอ้างว่าจะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมและหุ้นกู้ให้ แต่กลับนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ไม่ได้ซื้อให้จริง และได้ทำเอกสารยืนยันการซื้อหน่วยลงทุนและหุ้นกู้ขึ้นเอง เพื่อแสดงให้ลูกค้าเชื่อว่าได้ซื้อให้ลูกค้าแล้ว
ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า .งส.จรีภรณ์ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 ของ น.ส.จรีภรณ์ และไม่ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนเป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อการชักชวนของผู้แนะนำการลงทุนที่ให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวหรือให้เงินสดแก่ผู้แนะนำการลงทุน เนื่องจากอาจมีการกระทำที่ไม่สุจริตหรือเอาเปรียบที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ลงทุนได้ ในกรณีการโอนเงินค่าซื้อหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนต้องโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ต้นสังกัดเท่านั้น และขอให้ผู้ลงทุนตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการซื้อหลักทรัพย์ทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นเอกสารที่บริษัทหลักทรัพย์ใช้ยืนยันการทำธุรกรรมจริง และหากมีข้อสงสัยควรติดต่อศูนย์ดูแลลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ หรือโทร.สอบถามที่สายด่วนศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต. 1207 ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน