นายเสนาธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ "Business ONE" ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ที่จะเป็น Digital Business Management Platform ในการเชื่อมโยงทั้ง financial และ non-financial เข้าด้วยกันเพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารธุรกิจได้จากที่เดียว ในรูปแบบการใช้งานที่ง่าย และช่วยให้ลูกค้าไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเอสเอ็มอีสามารถลดต้นทุนในการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น
นายรัชกร ชยาภิรัช หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร นวัตกรรมทางดิจิทัล (ลูกค้าธุรกิจ) ทีเอ็มบี กล่าวว่า “Business ONE” ถือเป็นนวัตกรรมดิจิทัลที่แตกต่างจากอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งอื่นๆใน 3 จุดเด่นหลักๆ ได้แก่
ONE Platform เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจทำทุกธุรกรรมได้ครบจบในระบบเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินหรือโอนเงินให้คู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ลดปัญหาไม่ต้องจำรหัสเข้าใช้งานหลายระบบ และยังสามารถใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเข้าผ่านคอมพิวเตอร์
แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดยได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกัน
รวมถึง ONE to Control ให้ลูกค้าธุรกิจควบคุมธุรกิจได้ในระบบเดียว ใช้งานง่าย สามารถเลือกออกแบบหน้าจอการใช้งานได้ตามกลุ่มผู้ใช้งาน ทำรายการพร้อมกันได้หลายรายการในครั้งเดียว มีระบบช่วยแนะนำวิธีการโอนหรือจ่ายเงินที่สะดวก รวมถึงการหาข้อมูลทางบัญชีที่รวดเร็ว และหากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ระบบจะสามารถประมวลข้อมูลได้เอง และแสดงข้อมูลในเชิงวิเคราะห์ เป็นการช่วยวางแผนการเงินในอนาคตได้
และ ONE to Command ซึ่งเป็นระบบเดียวที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง financial solution ของธนาคาร และ non-financial solutions อื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน HR Management ที่ช่วยให้ลูกค้าบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเชื่อมต่อเรื่องการบริหารพนักงานและการจ่ายเงินเดือนเข้าด้วยกัน
"เราพัฒนา Business ONE จากปัญหาของผู้ประกอบการที่มองว่าการใช้ช่องทางดิจิทัล มักจะมีความยุ่งยาก ซับซ้อน ต้องสลับหน้าจอไปมา ซึ่ง Business ONE สามารถทำรายการพร้อมกันได้หลายรายการโดยไม่ยุ่งยาก ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดต้นทุนที่เป็นตัวเงินแล้ว ยังประหยัดต้นทุนด้านเวลาเพื่อนำไปใชัพัฒนาด้านอื่นได้อีกด้วย"
ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารมีจำนวนลูกธุรกิจกว่า 100,000 ราย เป็นกลุ่มที่เข้าถึงระบบออนไลน์แล้วประมาณ 30,000 ราย โดยธนาคารจะทยอยโอนย้ายลูกค้าปัจจุบันขึ้นระบบใหม่นี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป และคาดว่าภายในสิ้นปี 2564 จะมีลูกค้าธุรกิจที่เป็นนิติบุคคลของทั้งทีเอ็มบี และธนชาตมาใช้งานกว่า 100,000 บริษัท