"วินเนอร์ยี่ เมดิคอล" ยื่นไฟลิ่งขาย IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น เล็งเข้าจดทะเบียนในตลาด mai โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เผยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปสร้างห้องปฏิบัติการ
บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WMED) ยื่นแบบแสดงรายการและหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ฉบับแรก เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น และจะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
WMED ประกอบธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายชุดตรวจเพื่อการวิเคราะห์ วินิจฉัยและ/หรือบำบัดรักษา รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง และจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อการเก็บรักษาโลหิตและผลิตภัณฑ์ของโลหิต เพื่อการวิเคราะห์ วินิจฉัยและ/หรือบำบัดรักษาโรค ซึ่งได้นำเข้าจากผู้ผลิตชั้นนำในต่างประเทศ อีกทั้งเป็นตัวแทนของบริษัทผู้ให้บริการตรวจวินิจฉัยด้านพันธุศาสตร์จากต่างประเทศ สำหรับการให้บริการตรวจสารพันธุกรรมและความผิดปกติของทารกในครรภ์
และบริษัทย่อยประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสุขภาพและสุขอนามัย เช่น เครื่องดักจับยุงและแมลงดูดเลือด เครื่องบำบัดขยะมูลฝอยติดเชื้อ และชุดกำจัด/จัดการสารเคมีและชีวภาพหกปนเปื้อน
บริษัทมีวัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนผ่านเสนอขายหุ้น IPO เพื่อลงทุนก่อสร้างห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านงาน การเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีเซลล์บำบัด (Cell Therapy) ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
โครงการของบริษัทในการสร้างห้องปฏิบัติการสำหรับการเตรียมเซลล์ที่ได้มาตรฐาน โดยมีแผนซื้อเครื่องคัดแยกและเพราะเลี้ยงเซลล์ในระบบปิดแบบอัตโนมัติ (CliniMACS Prodigy System) และก่อสร้างห้องปฏิบัติการ โดยจะใช้งบประมาณลงทุนทั้งสิ้น ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเมื่อมีการก่อสร้างแล้วเสร็จจะเปิดให้บริการกับโรงพยาบาลของรัฐ และเอกชน หน่วยงานต่างๆ รวมถึงบุคคลทั่วไป บริษัทคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างในไตรมาส 4/64 และเริ่มให้บริการได้ในปี 65
สำหรับโครงการลงทุนก่อสร้างห้องปฏิบัติการครอบคลุมด้านงานเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยการทำเซลล์บำบัด (Cell Therapy) ซึ่งหลักการรักษาของ Cell Therapy คือการซ่อมแซมเซลล์ด้วยชีวะโมเลกุล (Xenogenic Peptide) ด้วยเครื่องคัดแยกและเพราะเลี้ยงเซลล์ในระบบปิดแบบอัตโนมัติ (CliniMACS Prodigy System) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Miltenyi Biotec ประเทศเยอรมนี น้ำยาต่างๆ ที่จะใช้เป็นน้ำยาที่ผ่านมาตรฐานการรับรองใช้ในร่างกายมนุษย์ (Clinical Grade)
นอกจากนี้ เครื่องคัดแยกและเพาะเลี้ยงเซลล์จะสามารถคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดที่จำเพาะ (Stem Cell Selection) การเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวน (Cell Culture) ตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว เครื่องคัดแยกและเพราะเลี้ยงเซลล์ในระบบปิดแบบอัตโนมัติ (CliniMACS Prodigy System) ยังสามารถเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์ให้แก่แพทย์เพื่อการรักษาผู้ป่วยมะเร็งแบบต่างๆ โดยแพทย์จะฉีดผลิตภัณฑ์เซลล์ดังกล่าวกลับคืนสู่ร่างกายผู้ป่วยให้ไปสร้างแอนติบอดีต่อต้านและทำลายเซลล์มะเร็ง เป็นวิธีรักษาโดยใช้หลักการภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ปัจจุบันมีการใช้วิธีการนี้ใช้รักษาทั้งในยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น นานกว่า 5 ปี สำหรับในประเทศไทยเริ่มนำมาใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตั้งแต่ต้นปี 63 ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามและประเมินผลการรักษา
ณ วันที่ 22 ก.ย.63 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 200,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 400,000,000 หุ้น เป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 140,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 280,000,000 หุ้น ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเต็มจำนวน
โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท วินเนอร์ยี่ เทรดดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 182,785,820 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 65.28% หลังจากเสนอขายหุ้น IPO แล้วจะลดสัดส่วนลงเหลือ 45.70% Dara Investment Limited ถือหุ้น 54,598,320 หุ้น คิดเป็น 19.50% จะลดสัดส่วนลงเหลือ 13.65% น.ส.จิณหธาน์ ปัญญาศร ถือหุ้น 38,954,860 หุ้น คิดเป็น 13.91% จะลดสัดส่วนหุ้นเป็น 9.74%
สำหรับผลประกอบการในช่วงปี 60-62 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานเท่ากับ 453.41 ล้านบาท 514.16 ล้านบาท และ 492.38 ล้านบาทตามลำดับ มาจากรายได้หลักคือ รายได้จากการขายและบริการ และรายได้ค่าเช่า ขณะที่มีรายได้อื่น 5.48 ล้านบาท 1.80 ล้านบาท 2.62 ล้านบาท และ 0.29 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิ เท่ากับ 12.33 ล้านบาท 40.96 ล้านบาท และ 37.19 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 2.72%, 7.97% และ 7.55%
ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของงปี 63 บริษัทมีรายได้ 390.66 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 30.39 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 7.79% เทียบกับงวด 9 เดือนแรกของปี 62 บริษัทมีรายได้ 342.41 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16.14 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 4.77% ณ วันที่ 30 ก.ย.63 บริษัทสินทรัพย์รวม 504.06 ล้านบาท หนี้สิน 323.23 ล้านบาท และ ส่วนผู้ถือหุ้น 108.83 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิที่เหลือจากการหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ โดยพิจารณาจากกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท