ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 4-5 พ.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดอาจจะเสนอสัญญาณชี้นำแบบใหม่สำหรับการซื้อสินทรัพย์ในเร็วๆ นี้ ขณะที่เฟดพยายามหาลู่ทางที่จะพยุงเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,360.06 จุด ลดลง 2.27 จุด, -0.07% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,255.47 จุด ลดลง 41.39 จุด, -0.16% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,695.25 จุด เพิ่มขึ้น 25.50 จุด, +0.10% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 13,763.79 จุด เพิ่มขึ้น 24.96 จุด, +0.18% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,605.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.19 จุด, +0.16% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,856.37 จุด ลดลง 13.18 จุด, -0.46% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,597.69 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด, +0.05%
รายงานประชุมเฟดระบุว่า "เมื่อพิจารณาเรื่องการซื้อสินทรัพย์ กรรมการเฟดประเมินว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์ของกระทรวงการคลัง และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) อย่างน้อยก็ให้เท่ากับระดับในปัจจุบัน"
"กรรมการเฟดหลายคนมองว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบาย (FOMC) อาจต้องการปรับปรุงสัญญาณชี้นำสำหรับการซื้อสินทรัพย์ในเร็วๆ นี้ โดยกรรมการเฟดส่วนใหญ่สนับสนุนการกำหนดสัญญาณชี้นำสำหรับการซื้อสินทรัพย์ที่อยู่บนพื้นฐานของผลลัพธ์ที่ได้รับอย่างมีคุณภาพ ซึ่งสัญญาณชี้นำในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ FOMC ประมาณการเอาไว้ว่าจะดำเนินการซื้อสินทรัพย์โดยพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจ"
สำหรับการประชุมเฟดซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 4-5 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ พร้อมระบุว่า เฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน รวมทั้งใช้เครื่องมืออื่นตามที่จำเป็น โดยขึ้นอยู่กับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ