ราคาน้ำมันขยับลงเกือบ 1% ในวันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) ถูกฉุดจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่ โจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต จะเป็นฝ่ายคว้าชัย ช่วยดันวอลล์สตรีทพุ่งแรง ส่วนทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 36 เซ็นต์ ปิดที่ 38.79 ดอลลาร์ ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 30 เซ็นต์ ปิดที่ 40.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
คณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรปปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจอียู พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจจะไม่ฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเผชิญกับโรคระบาดใหญ่โควิด-19 จนกระทั่งปี 2023
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ อิตาลี รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศเมื่อวันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) ส่วนสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อเกินกว่า 100,000 คนต่อวัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) พุ่งแรง หลัง โจ ไบเดน ใกล้ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่คู่คี่สูสี และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยืนยันจะยังคงเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 542.52 จุด (1.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,390.18 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 67.01 จุด (1.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,510.45 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 300.15 จุด (2.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,890.93 จุด
ไบเดน ดูเหมือนจะคว้าชัยเหนือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน แม้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) ยังคงนับไม่แล้วเสร็จ กระนั้นทีมหาเสียงของทรัมป์คาดหมายว่าพวกเขาจะต้องดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้พวกเขากลายเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ
นอกจากนี้แล้ว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุน หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์
คำแถลงหลังการประชุมของเฟดระบุว่า “กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานยังคงฟื้นตัวขึ้น แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับในช่วงต้นปีนี้” ซึ่งแตกต่างจากในเดือนกันยายน ที่เฟดระบุว่า “กิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา”
เฟดยังระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อมนุษย์และเศรษฐกิจทั่วสหรัฐและทั่วโลก ซึ่งเฟดจะใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน เฟดให้คำมั่นว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย 2%
นอกจากนี้ เฟดระบุว่า จะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน รวมทั้งใช้เครื่องมืออื่นตามที่จำเป็น โดยขึ้นอยู่กับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม คำแถลงของเฟดไม่ได้ระบุถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เพิ่งเสร็จสิ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน
ถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ช่วยดันราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 50.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,946.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)