ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้ว่าจะมีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนก็ตาม
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 25,860.55 จุด ลดลง 154.07 จุด, -0.59% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,434.24 จุด เพิ่มขึ้น 19.15 จุด, +0.07% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 13,628.42 จุด เพิ่มขึ้น 35.41 จุด, +0.26% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,548.85 จุด เพิ่มขึ้น 9.70 จุด, +0.38% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,774.78 จุด ลดลง 3.77 จุด, -0.14% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,611.08 จุด เพิ่มขึ้น 0.93 จุด, -0.06%
ความกังวลที่ว่าสหรัฐฯ อาจใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งหลังจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา และไฟเซอร์ โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า สหรัฐฯ ยังคงติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 11.5 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 252,000 ราย
ก่อนหน้านี้ โมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐฯ แถลงว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 94% โดยโมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 30,000 ราย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทยารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และ BioNTech บริษัทยาของเยอรมนี ประกาศว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทั้ง 2 บริษัทพัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสสำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน และบริษัทจะยื่นจดทะเบียนวัคซีนต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) โดยคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1,300 ล้านโดสในปีหน้า