เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (KEX) นับถอยหลังรอเข้าจดทะเบียน เผยล่าสุด ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 300 ล้านหุ้น หรือ 17.24% ระดมทุนขยายธุรกิจ ชำระเงินกู้ หวังโชว์ศักยภาพด้านอีคอมเมิร์ซ ด้าน เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ (JR) เคาะราคา IPO สัปดาห์นี้ เข้าเทรด SET ปลาย พ.ย.นี้ พร้อมตุน Backlog 6.4 พัน ล้านบาท ดันรายได้โตก้าวกระโดดใน 3 ปี
นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งไฟลิ่ง KEX เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 17.24% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ เพื่อนำเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ในการขยายธุรกิจ ชำระเงินกู้ และเป็นทุนหมุนเวียนในกิจการต่อไป
โดยปัจจุบัน เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ให้บริการลูกค้าในธุรกิจที่หลากหลาย ผ่านเครือข่ายที่ครอบคลุมด้วยจุดให้บริการกว่า 15,000 จุดและศูนย์กระจายพัสดุกว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ
ที่ปรีกษาฯ เชื่อมีศักยภาพเติบโตสูงรับอีคอมเมิร์ซ
น.ส.วีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า KEX มีศักยภาพการเติบโตสูงและอยู่ในธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากเมกะเทรนด์ด้านอีคอมเมิร์ซ
โดยหลังจากได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง)/ร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งแล้ว
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาธุทางการเงิน กล่าวว่า KEX สามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน บริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนภาคเอกชนในประเทศไทยและเป็นผู้ประกอบการรายแรกในธุรกิจดังกล่าวที่เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการจัดส่งพัสดุด่วน ซึ่งถือเป็นห่วงโซ่สำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซในประเทศไทยอีกด้วย
เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ (JR) เคาะราคา IPO สัปดาห์นี้ เข้าเทรด SET ปลาย พ.ย.นี้
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ของบริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเคาะราคาจองซื้อ IPO ของ JR ภายในสัปดาห์นี้ หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติการเสนอขายแล้ว พร้อมคาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้
ทั้งนี้ JR เตรียมเสนอขาย IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 26.32% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว โดยการเสนอขายจะแบ่งเป็น 184 ล้านหุ้น ขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และขายให้นักลงทุนสถาบันราว 45% และอีกจำนวน 16 ล้านหุ้น จะเสนอขายให้แก่ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท
คาดผลงานโตก้าวกระโดดใน 3 ปีข้างหน้า
สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานของ JR คาดว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 63-65) เนื่องจากจะทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog) ที่ ณ สิ้นไตรมาส 2/63 อยู่ที่ระดับ 6,386.63 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 547.90 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 64-65 อีกจำนวน 2,084.65 ล้านบาท และ 2,434.72 ล้านบาท ตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการรับงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ในอนาคตบริษัทจะมีโอกาสการเติบโตอีกมากจากอุตสาหกรรมที่ยังมีการขยายตัว ทั้งการขยายโครงการรถไฟ รถไฟฟ้า สนามบิน และโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังออกมาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนฐานะทางการเงินของบริษัทปัจจุบันถือว่าค่อนข้างแข็งแรง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ระดับ 2.1 เท่า และเป็นหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยอยู่ที่เพียง 0.1 เท่า
"แม้ว่า JR แทบจะไม่มีหนี้ แต่ด้วยอนาคตที่มีโอกาสที่จะเติบโตอีกค่อยข้างมากด้วยการผลักดันการเติบโตของภาครัฐบาลที่มีการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก การระดมทุนครั้งนี้จึงเป็นการรองรับการรับงานที่มีขึ้น และเราจะเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้น JR จะได้รับผลตอบแทนที่ดีในการลงทุนแน่นอน" นายสมภพ กล่าว