xs
xsm
sm
md
lg

SCC โกยกำไรเฉียด 9.8 พันล้าน ซื้อหุ้น AJ 9.22% พร้อมร่วมทุนตั้ง บ.ลุยแผ่นฟิล์ม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปูนซิเมนต์ไทย กำไรงวดนี้ 9,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้ 302,689 ล้านบาท ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลงตามราคาน้ำมันที่ลดลง คาดปีนี้ใช้งบลงทุน 6 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ในธุรกิจเคมิคอลส์และแพกเกจจิ้ง ขณะแจ้งบริษัทร่วมทุนในพม่า หยุดผลิตชั่วคราว หลังเกิดข้อพิพาท อีกทั้งเข้าซื้อหุ้น "เอ.เจ. พลาสท์" 40,560,773 หุ้น หรือ 9.22% คิดเป็นเงินลงทุน 696 ล้านบาท และร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่มูลค่า 700 ล้านบาท โดย SCG Chemicals จะถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนสัดส่วน 45% ต่อ 55% ตามลำดับ

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC แจ้งผลงานไตรมาส 3 SCC มีกำไรสุทธิ 9,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน โดยมีรายได้จากการขาย 100,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อันเป็นผลจากธุรกิจเคมิคอลส์ที่ดีขึ้นตามความต้องการสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชีย ส่วนตัวเลข EBITDA อยู่ที่ 19,334 ล้านบาท ลดลง 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากไตรมาสก่อนเป็นช่วงที่มีเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมและบริษัทอื่น

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้จากการขายลดลง 9% ขณะที่กำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้น 57% และมี EBITDA เพิ่มขึ้น 30% จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจเคมิคอลส์ และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง

สำหรับงวด 9 เดือน SCC มีกำไร 26,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,186 ล้านบาท หรือ 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก
ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และธุรกิจแพกเกจจิ้ง ส่งผลให้มี EBITDA 56,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% โดยมีรายได้จากการขาย 302,689 ล้านบาท ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลง ตามราคาน้ำมันที่ลดลง

สำหรับปีนี้ SCC คาดรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนทั้งปี 60,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ในธุรกิจเคมิคอลส์และธุรกิจแพกเกจจิ้ง เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ รวมถึงโครงการขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีมูลค่าการลงทุนแล้ว 37,298 ล้านบาท เป็นการลงทุนธุรกิจเคมิคอลส์ 65% ธุรกิจแพกเกจจิ้ง 17% ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 14% และส่วนงานอื่น 4% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากก่อนหน้าที่เคยประเมินงบลงทุนไว้ที่ 55,000-65,000 ล้านบาท และประมาณ 50% จะใช้เพื่อก่อสร้างโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ที่เวียดนาม

พร้อมกันนี้ SCC ยังแจ้งว่า Mawlamyine Cement Limited (MCL) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในพม่า ระหว่างบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด (SCG Cement) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด และ Pacific Link Cement Industry Ltd. (PLCI) ซึ่งเป็นบริษัทพม่าได้หยุดการผลิตเป็นการชั่วคราวตั้งแต่กลางเดือน ต.ค.63 เนื่องจากไม่มีหินปูน ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์

ทั้งนี้ เกิดจากข้อพิพาทระหว่าง SCG Cement ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MCL และ PLCI ทำให้ MCL ไม่สามารถเข้าพื้นที่เหมืองหินปูนได้หลังจากการเจรจากับ PLCI ไม่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา SCG Cement ได้ยื่นคำร้องเพื่อดำเนินการระงับข้อพิพาทด้วยกระบวนการอนุญาโตตุลาการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาร่วมทุน และ MCL รับทราบว่า PLCI ได้ดำเนินกระบวนการทางกฎหมายกับ MCL ต่อศาลประเทศพม่าในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ดี SCC จะรายงานความคืบหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับกระบวนนการอนุญาโตตุลาการ และความคืบหน้าข้อพิพาททางกฎหมาย ตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของตลาดหลักทรัพย์ต่อไป ขณะที่ MCL ยังคงดูแลและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้แทนจำหน่ายและลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากการขาดแคลนปูนซีเมนต์ที่เกิดจากการหยุดผลิตเป็นการชั่วคราว

ทั้งนี้ มูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีของ MCL ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 (ประมาณ 10,600 ล้านบาท) คิดเป็น 1.5% ของมูลค่าสินทรัพย์ตามงบการเงินรวมของ SCC ขณะที่ยอดขายของ MCL คิดเป็น 0.7% ของรายได้จากการขายตามงบการเงินรวมของ SCC

ล่าสุด SCC แจ้งที่ประชุมบอร์ดให้ลงทุนในบริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJ ผู้ผลิตฟิล์มสำหรับบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน 40,560,773 หุ้น หรือ 9.22% ณ ราคาหุ้น 17.15 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินลงทุน 696 ล้านบาท ด้วยวิธีการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด หรือ Private Placement และจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ AJ เพื่อผลิตและจำหน่ายฟิล์ม Biaxially Oriented หรือ BO Film ในประเทศเวียดนามบริษัทร่วมทุนดังกล่าวมีทุนจดทะเบียนมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท โดย SCG Chemicals จะถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนในสัดส่วน 45% ต่อ 55% ตามลำดับ หรือคิดเป็นเงินทุนจาก SCG Chemicals 315 ล้านบาท

โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบ Private Placement ของ SCG Chemicals จะเกิดขึ้นเมื่อมีการลงนามสัญญาร่วมทุนระหว่าง SCG Chemicals และ AJ การลงทุนดังกล่าวของ SCG Chemicals เป็นการเข้าสู่ธุรกิจที่มีการเติบโตสูงจากความต้องการบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้้งการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อผลิตและจำหน่าย BO Film ในประเทศเวียดนามและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูง และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของทั้ง AJ และ SCG Chemicals เพื่อการขยายธุรกิจ BO Film ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น