ผู้ถือหุ้น "เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์" อนุมัติให้ซื้อหุ้น "โกลด์ ชอร์ส" เพิ่มอีก 40% ดันถือเพิ่มเป็น 81% หลังมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ จากการที่โกลด์ ชอร์สได้รับสัมปทานขายประกอบกิจการประปาให้ กปภ. เพื่อส่งน้ำให้จังหวัดภูเก็ต เป็นระยะเวลา 30 ปี ด้วยกำลังการผลิต 9.6 หมื่น ลบ.ม.ต่อวัน สร้างรายได้ราว 550 ล้านบาทต่อปี อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 70%
นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UP แจ้งว่า ผู้ถือหุ้นของบริษัทนุมัติให้ลงทุนเพิ่มเติมโครงการผลิตน้ำประปาในจังหวัดภูเก็ต ด้วยการซื้อหุ้นบริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด หรือ GS เพิ่มอีกในสัดส่วน 40% คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 550 ล้านบาท จะส่งผลให้ 7UP ถือหุ้นในโกลด์ ชอร์ส เพิ่มเป็น 81% เนื่องจากเห็นว่าเป็นโอกาสการลงทุนที่ดี และจัดอยู่ในธุรกิจสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นธุรกิจเป้าหมายการลงทุนของบริษัทฯ โดยโกลด์ ชอร์ส ดำเนินธุรกิจพัฒนาระบบสาธารณูปโภคด้านการประปา พื้นที่ให้บริการหลักอยู่ในจังหวัดพังงาและภูเก็ต และได้รับสัญญาขายน้ำประปาให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อส่งน้ำประปาให้แก่จังหวัดภูเก็ต เป็นระยะเวลา 30 ปี หรือระหว่างปี 2560-2589 ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้มั่นคงให้แก่บริษัทฯในระยะยาว
ทั้งนี้ ตามแผนธุรกิจของโกลด์ ชอร์ส จะก่อสร้างให้เต็มกำลังการผลิต 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ภายในปี 2565 โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 เฟส เฟสละ 24,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปัจจุบันได้การก่อสร้างงานวางท่อและโรงกรองน้ำเฟสที่ 1 เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างก่อสร้างในเฟสที่ 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2563 นี้ และจะทำให้โกลด์ ชอร์ส มีกำลังการผลิตน้ำประปารวม 48,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และคาดว่าจะได้รับสัญญาขายน้ำประปาให้แก่ กปภ. ขั้นต่ำ 40,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในราคาขายเฉลี่ยที่ 15.90 บาทต่อลูกบาศก์เมตร ภายในปี 2563 นี้ และกำลังการผลิตน้ำดิบที่เหลือจะกระจายขายให้แก่ผู้ซื้อรายย่อยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
“การเข้าทำรายการดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2564 ทำให้บริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากการขายน้ำประปาใน 2 เฟสแรกได้ในไตรมาสแรกของปี 2564 โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ให้เดือนละ 20 ล้านบาท หรือกว่า 200 ล้านบาทต่อปี กรณีขยายกำลังการผลิตได้เต็มกำลังผลิต คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 550 ล้านบาท และจะเป็นผลให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำประปา เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 30% ของรายได้ของบริษัทฯ โดยจะมีส่วนสำคัญในการสร้างผลประกอบการที่ดีให้แก่บริษัทฯ อย่างมั่นคงในระยะยาว เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงถึง 70% และมีอายุสัมปทานเป็นระยะเวลานานถึง 30 ปี”
ทั้งนี้ โอกาสทางธุรกิจในการขายน้ำประปาในจังหวัดภูเก็ตยังมีอีกสูง เนื่องจากเป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลักของประเทศ พบว่าความต้องการใช้น้ำกรณีสูงสุดอยู่ที่ 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในขณะที่ปัจจุบันกปภ.สามารถให้บริการรองรับได้เพียง 80,000-100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน แม้ว่าจะรวมกำลังการผลิตในส่วนของโกลด์ ชอร์ส เข้าไปด้วยแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ความต้องการใช้น้ำของจังหวัดภูเก็ตยังมีมากกว่ากำลังการผลิตน้ำประปาในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจของโกลด์ ชอร์สในอนาคต