"ดีเฮ้าส์พัฒนา" เทรดวันแรกหืดขึ้นคอ เหนือจอง 0.01 บาท คิดเป็น 1.67% มูลค่าซื้อขาย 492.02 ล้านบาท โบรกฯ ประเมินให้ราคาต่าง ผู้บริหารนำเงินไปใช้เป็นทุนในการขยายงานตามแผน
บมจ.ดีเฮ้าส์พัฒนา หรือ DHOUSE เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก พบว่า ราคาเปิดอยู่ที่ 0.67
บาท/หุ้น ปรับขึ้น 0.07 บาท หรือปรับขึ้น 11.67% จากราคาจองซื้อ ที่ 0.60 บาท/หุ้น และปิดช่วงเช้าที่ 0.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 10% จากราคาขาย IPO ที่ 0.60 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 254.68 ล้านบาท ระหว่างวันราราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 0.72 บาท ต่ำสุดที่ 0.61 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 0.61 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท คิดเป็น 1.67% มูลค่าซื้อขาย 492.02 ล้านบาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินราคาเหมาะสมของ DHOUSE ที่ 0.65 บาท อิง 2564PER 8.4x ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่อยู่อาศัย สำหรับกำไรสุทธิปี 2563 ประเมินที่ 37 ล้านบาท ลดลง 10% จากปีก่อน โดยกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกคิดเป็น 29% จากที่คาดทั้งปี โดยกำไรสุทธิในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นมาก เพิ่มขึ้น 76% จากปีก่อน จากการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ พฤกภิรมย์ ในงวดไตรมาส 4/63 ส่งผลให้กำไรสุทธิในงวดปี 2564-2565 ประเมินจะเติบโตได้โดดเด่นเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 39% CAGR จากการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่เพิ่มขึ้น โดยจะเปิดโครงการใหม่และเริ่มโอนเพิ่มต่อเนื่องปีละ 1 โครงการ
บล.ทิสโก้ มองในเชิงของการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ DHOUSE หากใช้ผลประกอบการ 12 เดือนก่อนจะมี PER ที่ 19.87 เท่า แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในตลาดซื้อขายใน PER ที่ต่ำกว่า 10 เท่า และด้วยงานในมือของ DHOUSE ที่ค่อนข้างต่ำทำให้การประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นออกมาต่ำกว่าราคา IPO ค่อนข้างมาก (EPS Trailing 12M อยู่ที่ 0.03 บาท)
.
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DHOUSE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์จะเติบโตแตะ 1,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี ด้วยการเดินหน้าแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในภาคอีสานอย่างต่อเนื่องภายหลังจากการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO)