โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลง วิตกการเมืองกดดัน สะท้อนความกังวลต่อเหตุสลายการชุมนุมทางการเมืองในประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้คืบหน้าแผนกระตุ้น ศก.สหรัฐฯ
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) คาดว่าดัชนีหุ้นไทยเช้านี้น่าจะเปิดปรับตัวลดลง สะท้อนความกังวลต่อเหตุสลายการชุมนุมทางการเมืองในประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งหากปรับลงลึกดัชนีก็น่าจะมีโอกาสรีบาวนด์กลับ ทำให้ภาพรวมการปรับลดลงอาจจะไม่มาก เนื่องจาก Sentiment ต่างประเทศเป็นบวก ทั้งตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่เปิดบวก และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ตอบรับความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯ ที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะได้รับการผลักดันให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้
นอกจากนี้ การที่กองทุนในประเทศทยอยขายหุ้นออกมาค่อนข้างมากในสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะในช่วงวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ มีแรงขายออกมารวมกว่า 4.1 พันล้านบาท ก็น่าจะทำให้กลับมาซื้อในสัปดาห์นี้จากปัจจัยบวกต่างประเทศที่เข้ามา ประกอบกับการชุมนุมแม้จะมีความยืดเยื้อและอาจจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ แต่ก็น่าจะเป็นภาพที่ตลาดรับรู้ไประดับหนึ่งแล้ว
ขณะที่สัปดาห์นี้ นักลงทุนยังจับตาดูการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของกลุ่มแบงก์ที่จะออกมา หลังจากที่ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) และบมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ประกาศออกมาแล้วดีกว่าคาด โดยเฉพาะด้านคุณภาพสินทรัพย์ แต่ยังต้องจับตาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ระยะต่อไปหลังจากที่หมดมาตรการพักชำระหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 22 ต.ค.นี้ และผลการจัดทำประมาณการฐานะและการดำเนินงานภายใต้ภาวะวิกฤต (Stress Test) ของธนาคารพาณิชย์ที่จะออกมาในเดือน ต.ค.นี้ด้วย ซึ่งหากผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของกลุ่มแบงก์และคุณภาพสินทรัพย์ไม่แย่กว่าคาด หุ้นกลุ่มแบงก์ก็พร้อมที่จะรีบาวนด์ขึ้น หลังจากที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมามากแล้ว นอกจากนี้ หากผล Stress Test ออกมาทุกแบงก์น่าจะผ่านเกณฑ์หมด ก็อาจจะกลับมาจ่ายปันผลได้หาก ธปท.อนุญาต ก็ยังจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ด้วย
พร้อมให้แนวรับที่ 1,220 และ 1,200 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,240 และ 1,247 จุด